ภรรยาสุดเศร้า คาใจ สามีรักษา โรคมะเร็งลำไส้ กลับติดโควิดในรพ.ดังดับ

ภรรยา คาใจ สามีรักษา โรคมะเร็งลำไส้ กลับติดโควิดในโรงพยาบาลดังของ จ.ปทุมธานี เผย สุดเศร้า รู้ว่าจะเสียชีวิตเพราะมะเร็ง แต่นี่มันเร็วเกินไป

ล่าสุดวันที่วันที่ 31 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ลักคณา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เปิดเผยว่า สามีได้ไปรักษาโรคมะเร็งลำไส้ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.64 และนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาโดยตลอด จนกระทั่งเตียงฝั่งตรงข้ามกับสามี มีอาการเหนื่อยหอบ และถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง และทางโรงพยาบาลดังกล่าวได้ทำการสวอปผู้ป่วยคนนั้น และเจอว่าคนไข้เป็นโควิด

น.ส.ลักคณา กล่าวต่อว่า ซึ่งทางโรงพยาบาลตรวจพบโควิด ก็โทรศัพท์มาบอกโรงพยาบาลที่สามีของตนรักษาอยู่ว่าคนไข้เป็นโควิด โรงพยาบาลจึงปิดวอร์ดที่สามีของตนอยู่ และทำการสวอปซึ่งสามีไม่ได้ติดโควิดในตอนนั้น วอร์ดที่สามีตนอยู่ทั้งหมด 6 เตียง และติดโควิดเพิ่ม 2 คน ไม่ติด 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่แยกเตียงผู้ป่วยที่ติดโควิดไปห้องผู้ที่ป่วยโควิด ส่วนคนที่ไม่ติดก็ยังอยู่ที่เดิมไม่มีการย้ายไปรักษาที่อื่น และไม่มีการทำความสะอาดห้องหรือพ่นยาฆ่าเชื้อใด ๆ ทั้งสิ้น

น.ส.ลักคณา กล่าวอีกว่า แต่มีอยู่ 1 เตียงทางเจ้าหน้าที่ได้ย้ายไปรักษาที่อื่นทันที เหลือแต่เตียงสามีตนและผู้ป่วยอีก 1 คนที่ยังนอนอยู่ที่เดิม โดยสามีเข้าใจว่าเดี๋ยวเจ้าหน้าที่คงจะย้ายไปเหมือนกัน แต่ไม่เลยกลับให้อยู่ที่เดิม จนวันที่ 13 ธ.ค. สามีไปสวอปใหม่ปรากฏว่าติดโควิด และถูกย้ายลงไปที่ตึกรักษาโควิด ซึ่งวันที่ 26 ธ.ค. อาการสามีเริ่มแย่ลง วันที่ 27 ธ.ค. เริ่มเหนื่อยมาก และวันที่ 28 ธ.ค. สามีก็เสียชีวิตลง

"ระหว่างที่สามีติดโควิดยังวิดีโอคอลคุยกันตลอด แม้แต่ขณะที่สามีจะเสียชีวิตก็ยังวิดีโอคอลคุยกัน ตอนที่สามีรักษาโรคมะเร็งเราอยู่กับสามีตลอด และเที่ยงคืนของวันที่ 13 ธ.ค. พยาบาลบอกให้เรากลับบ้านเมื่อรู้ว่า สามีติดโควิด ซึ่งสามีต้องเจาะถุงถ่ายมาไว้ที่หน้าท้อง แต่สามีบอกให้พยาบาลเปลี่ยนถุงถ่ายให้หน่อย แต่พยาบาลบอกกับสามีว่า ทำไม่เป็น ซึ่งถุงถ่ายของเสียนั้นต้องเปลี่ยนทุก 7 วัน เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะจะไปเปลี่ยนให้ก็ไม่ได้ สามีบอกว่าไม่อยากอยู่คนเดียว อยากให้เราเฝ้า และหมอก็ให้ยาคลายเครียดกับสามี พยาบาลโทรศัพท์มาบอกว่าสามีเครียดไม่อยากอยู่ และเขาหวังตลอดว่า จะได้ออกมาจากการรักษาโควิด และจะไปอยู่กับเขา" น.ส.ลักขณา กล่าว

 

น.ส.ลักคณา กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ติดโควิด ตนเอาสามีไปรักษาโรคมะเร็งลำไส้ ซึ่งของไปฝากไว้ก็หายหมด สามีติดโควิดในโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลไม่มีการติดต่อกลับมาเลย ตนอยากให้เป็นเคสตัวอย่าง ไม่อยากให้ใครมาสูญเสีย ตนเข้าใจว่า โควิดหลุดเข้ามาแล้ว ทำไมแยกออกเป็นบางเตียง บางเตียงไม่แยกออก และทำไมไม่ออกทั้งหมด ตนสงสัยตรงนี้

น.ส.ลักคณา กล่าวว่า ญาติใครใครก็รักซึ่งตนมั่นใจว่า ถ้าเอาสามีออกจากห้องนั้นตั้งแต่รู้ว่า มีผู้ป่วยติดโควิดยังก็ไม่ติด เพราะผลสวอปรอบแรกสามีไม่ติดโควิด ทางโรงพยาบาลให้นอนอยู่ในห้องนั้นจนติดโควิด และมีผู้ป่วยติดโควิดอีก 1 คนด้วย ขณะนี้สามีได้เผาไปแล้วที่วัดอัยยญิกการาม ปกติตนกับสามีมีอาชีพขายโรตีสายไหม ตอนนี้ลำบากมาก ไม่มีแรงสู้แล้ว เพราะถ้ามีเขาอยู่ก็ยังมีกำลังใจ รู้ว่าสามีจะเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง แต่มันก็เร็วเกินไปที่ตนจะรับได้ สามีเป็นมะเร็งมา 1 ปี