รีเซต

Sony และ Honda โชว์ขับรถ AFEELA ด้วยคอนโทรลเลอร์ PS5 บนเวทีงาน CES 2024

Sony และ Honda โชว์ขับรถ AFEELA ด้วยคอนโทรลเลอร์ PS5 บนเวทีงาน CES 2024
TNN ช่อง16
10 มกราคม 2567 ( 11:53 )
35
Sony และ Honda โชว์ขับรถ AFEELA ด้วยคอนโทรลเลอร์ PS5 บนเวทีงาน CES 2024

หลังจากโซนี่ ฮอนด้า โมบิลิตี (Sony Honda Mobility) บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์จากแดนอาทิตย์อุทัย ประกาศเปิดตัวต้นแบบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อะฟีล่า (AFEELA) ในงาน CES 2023 ไปก่อนหน้านี้  ล่าสุดกลับมาอีกครั้งบนเวที CES 2024 พร้อมโชว์การใช้คอนโทรลเลอร์ PlayStation 5 บังคับรถบนเวที เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมงานไปตาม ๆ กัน


ภาพจาก Sony Honda Mobility

 

บริษัทระบุว่าการใช้คอนโทรลเลอร์ PlayStation 5 บังคับรถบนเวที เป็นการสาธิตให้เห็นถึงความสามารถของซอฟต์แวร์ที่อยู่เบื้องหลังรถ EV คันนี้ แต่สำหรับระบบการขับขี่จริงจะใช้พวงมาลัยในการบังคับทั่วไป และยังสื่อถึงการที่รถยนต์อะฟีล่ากำลังจะเข้าไปอยู่ในเกมแข่งรถสุดโด่งดัง แกรน ทัวริสโม เซเว่น (Gran Turismo 7) ในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย


ภาพจาก Sony Honda Mobility

 

ส่วนการอัปเดตอื่น ๆ บนเวทีงาน CES งานจัดแสดงสินค้าและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระดับโลกประจำปี 2024 นี้ บริษัทได้ออกมาพูดถึงแผนงานพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะพึ่งพาการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตอบสนองต่อประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย


ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า บริษัทยังคงไม่ได้ให้รายละเอียดใหม่ ๆ เกี่ยวกับสมรรถนะในการขับขี่ เช่น ระยะทาง และความเร็วสูงสุดที่ทำได้ หรือการย้ำถึงความพร้อมใช้งานในปี 2026 รวมถึงราคาจำหน่าย ตามแผนที่ประกาศไปก่อนหน้านี้แต่อย่างใด 


ภาพจาก Sony Honda Mobility

 

สำหรับข้อมูลที่เผยออกมาแล้วของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อะฟีล่า (AFEELA) ระบุว่าเป็นรถยนต์ทรงซีดานสี่ประตู ออกแบบภายใต้แนวคิดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของประสบการณ์ของผู้ใช้งา  สมกับคำว่า FEEL หรือ ความรู้สึก ที่อยู่ใจกลางชื่อ AFEELA


ด้านหน้ารถมีจุดเด่นคือแถบ Media Bar ใช้แสดงข้อมูลต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ ข้อความ รูปภาพ สั่งเปลี่ยนสีสันตามที่ต้องการ ส่วนห้องโดยสารภายใน มีพวงมาลัยทรงสี่เหลี่ยม และแผงควบคุมหน้ารถ หรือ Dashboard แบบจอยาว พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ทั้งหมดนี้สามารถใช้ชมภาพยนตร์ เล่นเกม หรือฟังเพลงกันได้แบบเต็มอิ่ม 


นอกจากนี้ ตัวรถทั้งภายในและภายนอก ยังติดตั้งกล้องและเซนเซอร์ต่าง ๆ กว่า 45 จุด โดยมีบางส่วนใช้เพื่อตรวจจับสภาพของคนขับ เพื่อความปลอดภัย และจะพัฒนาให้รองรับการขับขี่อัตโนมัติระดับที่ 3 ซึ่งจะขับขี่ด้วยตนเองได้ในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตามรายละเอียดอื่น ๆ ยังคงต้องรอติดตามประกาศจากบริษัทต่อไป



ข้อมูลจาก reutersconnect, shacknews, cnetshm-afeelaracedepartment

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง