ศบค. แนะ WFH ต่อ ปลดล็อกตอนนี้ยังเสี่ยง โต้ตรวจน้อย ยันยอดตรวจ 1.4 แสนครั้ง
โฆษกศบค. ชี้ ปลดล็อกตอนนี้ยังเสี่ยง ย้ำสุขภาพต้องมาก่อน แนะ WFH ต่อ เผยยอดตรวจโรคกว่า 1.4 แสนครั้ง โต้ตรวจน้อยเจอน้อย
เมื่อเวลา 12.30 วันที่ 20 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ตอบข้อซักถามถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง เป็นเพราะตรวจน้อย ว่า ประเด็นนี้ตนถูกถามเป็นประจำ ทั้ง ๆ ที่ยอดการตรวจล่าสุดทั่วประเทศอยู่ที่ 142,589 ตัวอย่างไปแล้ว หรือตรวจประมาณวันละ 3,000 รายโดยตัวเฉลี่ย
ซึ่ง 3 อันดับหน่วยงานที่มีจำนวนการตรวจให้ประชาชนสูงสุดเป็นอันดับแรกนั้น คือภาคเอกชน รองลงมาเป็นวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยต่างๆ ยืนยันว่า ไม่ต้องการให้ใครติดโรค แต่จะหว่านตรวจทุกคนโดยที่การตรวจต่อคนมีมูลค่าหลักพันบาท ทั้งๆที่การตรวจ 100 คนจะพบผู้ที่ติดเชื้อเฉลี่ยคนครึ่งเท่านั้น จึงยังอยู่ในปริมาณที่ควบคุมได้ ไม่จำเป็นต้องหว่านตรวจ อย่างไรก็ตาม แต่ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้มีวิธีการตรวจรูปแบบใหม่ โดยการใช้น้ำลาย แม้ผลจะไม่เทียบเท่ากับตรวจจากสารคัดหลั่งในโพรงจมูกออกมาตรวจ แต่ก็ได้ผลดีในระดับหนึ่ง ทำได้ง่ายกว่าการสอดอุปกรณ์เข้าไปในโพงจมูก ดังนั้น จากนี้เชื่อว่า การตรวจจครอบคลุมและกว้างขึ้นโดยมีแนวโน้มการตรวจสะสมสูงขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนกรณีที่ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมาขึ้น หลังยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันลดลง จะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพรกระจายของไวรัสโควิด-19 หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เสี่ยงแน่นอน เพราะขณะนี้โรคยังไม่ได้หายไปจากโลกนี้ จึงยังจำเป็นต้องป้องกันตัวเองทุกคน เพราะสถานการณ์ของโลกพบผู้ติดเชื้อกระจายไปทั่วทั้งโลกแล้ว แต่ประเทศไทยเราซีลไว้ ไม่ให้ผู้ติดเชื้อมาเดินเหมือนกับประเทศอื่นที่มีวิถีชีวิตของความเป็นเสรี ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสูงเป็นหลักหลายหมื่นคน อย่างไรก็ตาม คนไทยก็ชอบชีวิตที่เป็นเสรีเช่นกัน จึงอยากให้ชังน้ำหนักให้ดี
โดยยังอยากให้สุขภาพมาก่อนเรื่องอื่นใด ขณะที่บริษัทห้างร้านต่างๆ แม้จะมีความจำเป็นต้องประกอบกิจการ แต่ก็ยังอยากให้มีการเหลื่อมเวลากันมาทำงาน เพื่อลดความแออัด โดยทำงานที่บ้าน 75% ขณะที่อีก 25% เข้าไปออฟฟิตเพื่อหมุนเวียนกัน เพราะเราต้องอยู่กับไวรัสไปอีกนาน หากเราควบคุมกันได้ตั้งแต่ในระบบผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติ บุคคล และครอบครัว เชื่อว่า เราจะควบคุมได้