รีเซต

เซเลนสกีสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง หลังพบคนในหน่วยงานทำงานให้รัสเซีย

เซเลนสกีสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง หลังพบคนในหน่วยงานทำงานให้รัสเซีย
TNN ช่อง16
18 กรกฎาคม 2565 ( 12:41 )
75
เซเลนสกีสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง หลังพบคนในหน่วยงานทำงานให้รัสเซีย

ประเด็นวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ล่าสุดยูเครนมีความเคลื่อนไหวสำคัญ หลังประธานาธิบดียูเครนสั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คน เปิดการสืบสวนคดีผู้ทรยศขายชาติ


--- ผู้นำยูเครนสั่งปลด อัยการสูงสุด-หัวหน้าสายลับ ฐานทำงานให้รัสเซีย---


ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน มีออกคำสั่งพิเศษปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 คนพร้อมกัน ด้วยข้อกล่าวหาว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขา ทรยศ ได้ไม่ได้ทำงานให้กับยูเครน แต่กลับไปทำงานให้รัสเซีย


ผู้ที่ถูกปลดครั้งนี้คือ อีรินา เวเนดิกโทวา พ้นจากตำแหน่งอัยการสูงสุด และอีวาน บาคานอฟ ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองภายใน หรือ SBU หลังจากผลการสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐหลายระดับในหลายองค์กร สมคบคิดกับรัสเซีย


ประธานาธิบดีเซเลนสกี ระบุว่า ได้เปิดการสืบสวนคดีผู้ทรยศขายชาติและเป็นไส้ศึกให้รัสเซีย 651 คดี พบว่า มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภายใต้สังกัดของบาคานอฟ และเวเนดิกโทวามากกว่า 60 คน ที่กำลังทำงานให้ฝ่ายตรงข้ามกับยูเครน ในดินแดนต่าง  ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย 


เซเลนสกีชี้ว่า อาชญากรรมเหล่านี้ ที่ส่งผลต่อรากฐานความมั่นคงแห่งชาติของชาติ ทำให้เกิดข้อสงสัยร้ายแรงต่อบรรดาผู้นำที่เกี่ยวข้อง และทุกคำถามต้องได้รับคำตอบที่เหมาะสม 


เวเนดิกโทวา ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตอัยการสูงสุด เป็นแกนนำที่พยายามดำเนินคดีกับรัสเซีย ด้วยข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน


ส่วน บาคานอฟ ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเซเลนสกี เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าหน่วยข่าวกรองภายในไม่นาน หลังจากเซเลนสกีได้ชัยชนะในปี 2019 เขาถูกถอดออกภายใต้มาตรา 47 ของบทบัญญัติทางวินัยของกองทัพยูเครน ที่ระบุถึงความล้มเหลวอย่างร้ายแรงในหน้าที่ราชการ "ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตหรือผลร้ายแรงอื่น  หรือสร้างภัยคุกคามต่อผลที่ตามมา"


ล่าสุด ยังไม่มีการเสนอชื่อใครมาแทนที่บาคานอฟ แต่เซเลนสกี ได้แต่งตั้ง โอเลคซีย์ ซีโมเรนโก ขึ้นเป็นอัยการสูงสุดแทนที่ เวเนดิกโทวา ซึ่งดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020


---ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์เผย รัสเซียยังไม่ได้ครองดินแดนทั้งหมด---


ส่วนความเคลื่อนไหวอื่น  ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ออกมาระบุว่า กองทัพรัสเซีย ยังไม่ได้ครอบครองดินแดนในแคว้นลูฮันสก์ทั้งหมด ในขณะที่ผู้นำยูเครน ก็ออกมาประกาศจุดยืนสนับสนุนแคนาดาไม่ให้คืนชิ้นส่วนท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 แก่รัสเซีย


เซอร์ฮีย์ ไฮได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ ของยูเครน ออกมาประกาศผ่านแอปพลิเคชั่น Telegram เพื่อคัดค้านเรื่องที่ เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อ้างเรื่องที่กองทัพรัสเซีย สามารถครอบครองดินแดนทั้งหมดในแคว้นลูฮันสก์เอาไว้ได้แล้ว 


เขาระบุว่า ยังมีพื้นที่อยู่อีก 2 หมู่บ้านที่ยังอยู่ในความครอบครองของกองทัพยูเครน และสามารถสร้างความเสียหายแก่กองทัพรัสเซียได้อยู่ ซึ่งเขาเชื่อว่า นายชอยกูปิดบังข้อเท็จจริงนี้ไว้ และไม่ได้แจ้งให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย รับทราบ


---ยูเครนไม่ยอมรับหากแคนาดาคืนชิ้นส่วนท่อส่งก๊าซให้แก่รัสเซีย---


ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ก็ออกมาประกาศจุดยืนในการสนับสนุนแคนาดา ไม่ให้คืนกังหันก๊าซ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญของท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีม 1” แก่รัสเซีย ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก โดยเขาระบุชัดเจนว่า ยูเครนจะไม่มีวันยอมรับหากว่าแคนาดา จะคืนชิ้นส่วนท่อส่งก๊าซให้แก่รัสเซีย 


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ออกมาระบุว่า “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ในการจะมองข้ามมาตรการคว่ำบาตร และส่งคืนชิ้นส่วนที่ได้รับการซ่อมบำรุงแล้วของท่อส่งก๊าซ “นอร์ดสตรีม 1” ให้แก่รัสเซีย


---รัสเซียเผยทำลายระบบ HIMARS ของยูเครนได้---


ส่วนความเคลื่อนไหวฝั่งรัสเซีย ล่าสุด อิกอร์ ดคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ทำลายอาวุธของยูเครนที่ได้รับจากสหรัฐฯและชาติพันธมิตนาโตจำนวนมาก โดยขีปนาวุธโจมตีเรือรบฮาร์พูน (Harpoon) ถูกทำลายระหว่างการโจมตีคลังเก็บอาวุธที่ท่าเรือโอเดสซาในทะเลดำ 


ขณะที่ จรวดหลายลำกล้องไฮมาส (HIMARS) ที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ก็ถูกโจมตีในแคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (17 กรกฎาคม


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ทางทหารมองว่า การค้นหาและทำลายระบบไฮมาส (HIMARS) ถือเป็นงานที่ท้าทาย และไม่อาจจะยืนยันคำกล่าวนี้ของรัสเซียได้

————

แปล-เรียบเรียงสุภาพร เอ็ลเดรจ

ภาพ: Reuters 



ข่าวที่เกี่ยวข้อง