รีเซต

เช็กจังหวัดภาคใต้ “เสี่ยงน้ำท่วม-น้ำหลาก” วันที่ 2-6 ธ.ค. มีพื้นที่ไหนบ้าง

เช็กจังหวัดภาคใต้ “เสี่ยงน้ำท่วม-น้ำหลาก” วันที่ 2-6 ธ.ค. มีพื้นที่ไหนบ้าง
TNN ช่อง16
29 พฤศจิกายน 2565 ( 12:26 )
59

วันนี้ (29 พ.ย. 65)  กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเตือนให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าจะมีฝนตกหนักในช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค.65 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง

โดย กอนช.ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคาดการณ์ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงวันที่ 2-6 ธ.ค.65 ดังนี้

1.เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขังในบริเวณ

          - จังหวัดระนอง (อำเภอละอุ่น)

          - จังหวัดชุมพร (อำเภอปะทิว เมืองชุมพร สวี ทุ่งตะโก หลังสวน ละแม ท่าแซะ และพะโต๊ะ) 

          - จังหวัดภูเก็ต (อำเภอถลาง และเมืองภูเก็ต) 

          - จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอกาญจนดิษฐ์ เกาะพะงัน เกาะสมุย และดอนสัก) 

          - จังหวัดพังงา (อำเภอคุระบุรี ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง)

          - จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม และสิชล)

          - จังหวัดตรัง (อำเภอปะเหลียน และหาดสำราญ)

          - จังหวัดพัทลุง (อำเภอเขาชัยสน บางแก้ว ปากพะยูน ป่าบอน และเมืองพัทลุง)

          - จังหวัดสตูล (อำเภอควนกาหลง ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง เมืองสตูล และละงู)

          - จังหวัดสงขลา (อำเภอกระแสสินธุ์ ควนเนียง จะนะ เทพา บางกล่ำ เมืองสงขลา รัตภูมิ สะบ้าย้อย สิงหนคร หาดใหญ่ นาทวี และสะเดา)

          - จังหวัดปัตตานี (อำเภอโคกโพธิ์ ปะนาเระ เมืองปัตตานี แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี หนองจิก กะพ้อ ทุ่งยางแดง และมายอ)

          - จังหวัดยะลา (อำเภอรามัน เมืองยะลา และยะหา)

          - จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ เมืองนราธิวาส ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ ศรีสาคร สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี แว้ง และสุคิริน)

2. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำปากพนัง แม่น้ำตรัง คลองชะอวด แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำโก-ลก

 3. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีแนวโน้มปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการเก็บกักน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) รวมทั้งอ่างฯ ขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร 80% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุดบริเวณท้ายเขื่อน

ในการนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดดำเนินการ ดังนี้

1. ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ

 2. ปรับการบริหารจัดการน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก น้ำในลำน้ำ รวมถึงเขื่อนระบายน้ำและประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำและ อิทธิพลของการขึ้น - ลง ของน้ำทะเล โดยการเร่งระบายและพร่องน้ำรองรับสถานการณ์ฝนที่คาดว่าจะตกหนัก

3. ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมของระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที

4. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้า ให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์



ข้อมูลจาก : กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)

ภาพจาก  :  AFP 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง