รีเซต

สศค.จับตา”น้ำท่วม-บาทแข็ง“กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ

สศค.จับตา”น้ำท่วม-บาทแข็ง“กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ
ทันหุ้น
27 กันยายน 2567 ( 13:47 )
10
สศค.จับตา”น้ำท่วม-บาทแข็ง“กระทบภาพรวมเศรษฐกิจ

สศค.เผย การบริโภคภายในประเทศในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ ยังอยู่ในระดับทรงตัว แต่ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งและจักรยานยนต์ และรถยนต์เชิงพาณิชย์ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

พร้อมต้องจับตาผลกระทบจากน้ำท่วมและค่าเงินบาทที่มีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม

 

#ทันหุ้น นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2567 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ทั้งนี้ จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมถึงค่าเงินบาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

 

ทั้งนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าโดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ระดับราคาคงที่ ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 9.6 ปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และปริมาณจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนสิงหาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -25.5 และ -15.9

 

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 56.5 จากระดับ 57.7 ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ประกอบกับค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี รายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนสิงหาคม  เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ7.2

 

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนในเดือนสิงหาคม มีสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 5.5 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -8.9 ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนสิงหาคม ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -22.5

 

สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนสิงหาคม  ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 5.7 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -3.1

ขณะที่ ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในเดือนสิงหาคม  ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ-5.2 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -11.3

 

มูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวในระดับสูงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนสิงหาคม  อยู่ที่  2.61  หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 7.0 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวที่ร้อยละ 6.6 เนื่องจากการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ โดยขยายตัวร้อยละ 74.7 23.1  และ 19.8 ตามลำดับ

 

สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม  อยู่ที่ร้อยละ 0.35 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.62 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ สิ้นเดือนกรกฎาคม  อยู่ที่ร้อยละ 63.7 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ

 

สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ สิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 235.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง