“ทองคำสวิส” ส่งออกไปสหรัฐทรุดกว่าร้อยละ 99

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การส่งออกทองคำแท่งจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกลั่นทองคำหลักของยุโรป ไปยังสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนักในเดือนสิงหาคม 2568 หลังคำตัดสินที่สร้างความประหลาดใจชั่วคราวให้มีการเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่ง

ทั้งนี้ ตลาดทองคำโลกเกิดความปั่นป่วนเมื่อต้นเดือนสิงหาคม เมื่อหน่วยงานของสหรัฐตีความชัดเจนว่า ทองคำแท่งขนาด 1 กิโลกรัม และ 100 ออนซ์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ซื้อขายกันมากที่สุดในประเทศ จะต้องถูกเก็บภาษีตอบโต้ ส่งผลให้การส่งออกแทบหยุดชะงัก ข้อมูลศุลกากรระบุว่าการส่งออกจากสวิตเซอร์แลนด์ดิ่งลงกว่า 99% เหลือเพียง 0.3 ตันในเดือนสิงหาคม จากเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวรีบออกแถลงการณ์ว่าจะชี้แจงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับภาษีดังกล่าว และในสัปดาห์ถัดมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ทองคำจะไม่ถูกเก็บภาษี!” อย่างไรก็ตามการยกเว้นภาษีสำหรับทองคำแท่งเพิ่งถูกทำให้เป็นทางการเมื่อต้นเดือนกันยายน ทำให้การค้าทองคำกลับมาดำเนินต่อได้

สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกลั่นทองคำที่สำคัญที่สุดของโลก กำลังเผชิญภาษีนำเข้าทองคำจากสหรัฐที่ 39% ซึ่งเป็นอัตราสูงที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว โดยในไตรมาสแรก การส่งออกทองคำสถิติสูงสุดกว่า 36,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของดุลการค้าส่วนเกินของสวิตเซอร์แลนด์กับสหรัฐ

ข้อมูลศุลกากรยังระบุว่า การส่งออกทั้งหมดของสวิตเซอร์แลนด์ไปสหรัฐ (ปรับตามฤดูกาล) ลดลง 22% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม

ส่วนการส่งออกทองคำรวมของสวิตเซอร์แลนด์ลดลง 19% เหลือน้อยกว่า 105 ตันในเดือนที่ผ่านมา โดยการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าแตะ 35 ตัน