รวบโจรสาวแสบ ลักกระเป๋าแม่ค้า แอบเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน หายวับนับ 2 แสนบาท
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 28 ธันวาคม พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง ร.ต.อ.พงษ์นพนนท์ รุ่งโรจน์ รอง สว.สส.สภ.คลองหลวง กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุม นางสาวศิริภรณ์ กิ่งกุล อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเอ็มเอสเอ็กซ์สีแดง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าสะพายสีชมพู กระเป๋าหนังสีน้ำตาล สมุดบัญชีธนาคาร บัตรรับประกันทองคำรูปพรรณ ทองรูปพรรณพร้อมพระเลี่ยมทอง1เส้น สร้อยข้อมือ1เส้น แหวนทอง1วงศ์ เงินสดจำนวนหนึ่ง และเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุโดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่งภายในซอยรัตนะ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า การจับกุมนางสาวศิริภรณ์ กิ่งกุล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม เวลา 14.05 น. ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวงว่า ได้วางกระเป๋าสีน้ำตาลไว้ภายในรถยนต์กระบะซึ่งจอดรถไว้ที่ลานจอดรถลานผักตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยผู้เสียหายนั่งมัดผักอยู่ที่ท้ายรถแล้วถูกคนร้ายลักทรัพย์ไป ภายในมีบัตรประชาชน เงินสด 240บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม หลังเกิดเหตุได้คนร้ายได้นำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินกว่า 200,000 บาทที่ตู้เอทีเอ็ม
หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือน.ส.ศิริภรณ์ กิ่งกุล อายุ 28 ปี โดยในวันก่อเหตุได้นำรถจยย.ไปจอดไว้ที่ริมทางก่อนเดินดูตามรถต่างๆ หากผู้เสียหายรายใดเผลอก็จะลักทรัพย์ทันที หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไปแล้วไปที่ธนาคารแห่งเพื่อขอทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ โดยนำหลักฐานของผู้เสียหายยื่นต่อเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนจะนำบัตรเอทีเอ็มใหม่มากดเงินแล้วไปซื้อของใช้ สร้อยทองเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ จ.ร้อยเอ็ด ทั้งนี้หากการสอบสวนเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มเติมจะให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม
จากการสอบสวนเบื้องต้นน.ส.ศิริภรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตอนนี้ตกงานจึงขับรถจักรยานยนต์ถอดแผ่นป้ายทะเบียนไปที่ลานจอดรถลานผักตลาดไท หากผู้เสียหายรายใดเผลอก็จะลักทรัพย์ โดยวันเกิดเหตุตนเองเห็นผู้เสียหายไม่ได้ปิดรถจึงลักทรัพย์กระเป๋าซึ่งภายในมีเอกสารต่างๆ ก่อนจะไปขอเจ้าหน้าที่ธนาคารทำบัตรเอทีเอ็มใหม่โดยใช้เอกสารของผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบัตรเก่ากดไม่ได้ เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงให้เซ็นเอกสารโดยรอบแรกลายเซ็นไม่ตรงกับเจ้าของบัญชี จึงเซ็นใหม่ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารให้ตนเองเปิดหน้ากากอนามัยออก และทักว่าป่วยหรอทำไมซูบไป ตนเองจึงตอบไปว่าท้อง และป่วยเป็นความดัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ธนาคารแนะนำให้ไปทำบัตรประชาชนใหม่ แต่ก็ออกบัตรเอทีเอ็มใบใหม่มาให้ตนเอง จึงไปกดเงิน และนำเงินไปซื้อทองรูปพรรณ และใช้หนี้นอกระบบ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว ขณะกำลังเก็บของเพื่อเดินทางกลับต่างจังหวัด
ด้านนายธนารักษ์ ภาชุมโฉม อายุ 31 ปี บุตรชายผู้เสียของหาย บอกว่าเมื่อวันเกิดเหตุแม่ตนเอง ได้นั่งเลือกผักอยู่ที่ท้ายรถกระบะ ซึ่งไม่ได้ล็อคประตูรถไว้ และมารู้ตัวอีกทีปรากฏว่า กระเป๋าของแม่หายไป จึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดของตลาดไท ก็เห็นว่ามีคนร้ายมาเปิดประตูรถ และขโมยกระเป๋าไป ซึ่งในกระเป๋ามีเงินสดประมาณ 2 หมื่นบาท บัตรประชาชนของแม่ และสมุดธนาคารของแม่โดยมีเงินฝากอยู่ 2 แสนกว่า จากนั้นจึงได้ไปแจ้งความ และทำการอายัดบัญชีแต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเงินมีคนกดไปแล้ว ซึ่งตนเองก็อยากของคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านที่ช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้