รีเซต

ไฟแนนเชียลไทม์ส แฉ ไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ขึ้นราคาวัคซีน คาดฟันเงินอีกหลายหมื่นล้าน

ไฟแนนเชียลไทม์ส แฉ ไฟเซอร์ กับ โมเดอร์นา ขึ้นราคาวัคซีน คาดฟันเงินอีกหลายหมื่นล้าน
มติชน
1 สิงหาคม 2564 ( 19:11 )
64

 

หนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียล ไทม์ส (เอฟที) ของอังกฤษ เผยแพร่รายงานข่าวจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมนี้ว่า จากการตรวจสอบสัญญาจัดซื้อวัคซีนล่าสุดของสหภาพยุโรป (อียู) พบว่า บริษัทไฟเซอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรมของสหรัฐอเมริกา ได้ปรับเพิ่มราคาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขึ้นอีก 1 ใน 4 ของราคาเดิม เช่นเดียวกับบริษัท โมเดอร์นา ของสหรัฐอเมริกา ที่ปรับราคาวัคซีนของตนขึ้นอีกราว 1 ใน 10 ของราคาเดิม ในขณะที่แอสตร้าเซนเนก้า ยังคงขายในราคาทุน

 

 

รายงานของเอฟที ระบุว่า ทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นา ได้รับการคาดหมายว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก หลายหมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อหลายประเทศพากันกระวนกระวายกับการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลต้า ที่สามารถแพร่ได้เร็วมาก

 

 

เอฟทีระบุว่า จากการตรวจสอบความตกลงระหว่างบริษัททั้ง 2 กับอียู ซึ่งตกลงกันในปีนี้ เพื่อการผลิตวัคซีนจำนวน 2,100 ล้านโดสให้กับอียู โดยมีการส่งมอบเป็นระยะๆ จนกระทั่งถึงปี 2023 พบว่า มีการเจรจาเงื่อนไขกันใหม่ หลังจากผลการทดลองในคนระยะที่ 3 แสดงให้เห็นว่า วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ ของทั้ง 2 บริษัทมีประสิทธิภาพสูงกว่า วัคซีนของออกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ที่มีราคาถูกกว่า

 

 

ราคาใหม่สำหรับวัคซีนของไฟเซอร์ เพิ่มขึ้นเป็น 19.50 ยูโรต่อเข็ม (ราว 740 บาท) จากเดิมที่อยู่ที่เพียง 15.50 ยูโรต่อเข็ม (ราว 569 บาท) ในขณะที่วัคซีนของโมเดอร์นา ปรับขึ้นเป็น 25.50 ดอลลาร์ต่อเข็ม (ราว 794 บาท) จากเดิม 22.60 ดอลลาร์ต่อเข็ม(ราว 703 บาท) แต่ก็ถือว่าเป็นระดับราคาที่ลดลงจากที่เคยตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ 28.50 ดอลลาร์ต่อเข็ม (ราว 887 บาท) หลังจากมีปริมาณการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้น

 

 

เจ้าหน้าที่ของอียูผู้หนึ่งยอมรับกับเอฟทีว่า บริษัทมีอำนาจด้านการตลาดสูงมากและใช้ประโยชน์จากอำนาจดังกล่าวได้เต็มที่ด้วยวาทะกรรมด้านเภสัชที่นำมาใช้กันเสมอว่า เป็นเพราะวัคซีนได้ผลทำให้ “คุณค่า” เพิ่มสูงขึ้น

 

 

ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไฟเซอร์ได้ปรับเพิ่มประมาณการรายได้ของบริษัทจากการขายวัคซีนให้สูงขึ้นจากเดิมเกือบ 1 ใน 3 เป็น 33,500 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ใจว่า ไฟเซอร์ จะใช้ราคาใหม่นี้ในการจำหน่ายทั่วโลกหรือไม่ ก่อนหน้านี้ นาย อัลเบิร์ต บูร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ)ของไฟเซอร์อ้างว่า ราคาวัคซีนของบริษัทจะอยู่ในระดับ “ทนได้” สำหรับประเทศที่มีรายได้สูง แต่จะลดลงเหลือราวครึ่งหนึ่งสำหรับประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และประเทศที่มีรายได้ต่ำจะได้รับวัคซีนในราคาต้นทุน

 

 

เอฟที อ้างการคำนวณของบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดชีววิทยาศาสตร์ แอร์ฟินิตี ระบุว่า ในปี 2022 ช่องว่างทางรายได้ของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนจะถ่างกว้างขึ้นอีก โดยรายได้จากวัคซีนของไฟเซอร์จะสูงถึง 56,000 ล้านดอลลาร์ โมเดอร์นา 30,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ แอสตร้าเซนเนก้า จะมีรายได้จากการขายวัคซีนในปีหน้าเพียง 15,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งๆ ที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนให้กับประเทศที่มีรายได้ต่ำมากที่สุดในโลกในเวลานี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง