รีเซต

ลำปางสุดคึกคัก! ผู้คนพากันฉีดวัคซีน ต่อแถวยาว ช่วงวันสุดท้ายให้ผู้สูงอายุต่างอำเภอเข้าฉีด

ลำปางสุดคึกคัก! ผู้คนพากันฉีดวัคซีน ต่อแถวยาว ช่วงวันสุดท้ายให้ผู้สูงอายุต่างอำเภอเข้าฉีด
มติชน
29 สิงหาคม 2564 ( 12:02 )
24

 

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บรรยากาศประชาชนที่ล้นหลาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสูงอายุ ทั้งในเขต อ.เมือง และในต่างอำเภอของ จ.ลำปาง ที่ได้เดินทางมายังวิทยาลัยพยาบาลบรมราชนนีนครลำปาง อ.เมือง กันตั้งแต่เช้า แบบมาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียว เพื่อขอเข้ารับบริการฉีดวัคซีน ซึ่งประชาชนได้เดินทางมาพร้อมกัน ก่อนเวลาเริ่มเปิดให้บริการฉีดวัคซีน เวลา 08.30 น. จึงทำให้ประชาชนต้องต่อแถวยาว และล้นทะลักออกมาถึงถนนด้านหน้า เพื่อรอรับบัตรคิว นับเป็นบรรยากาศที่คึกคักอย่างมาก จากประชาชนที่มีความต้องการ ในการรับวัคซีน

 

 

สำหรับที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครลำปางแห่งนี้ เป็นสถานที่ศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ดูแลโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งในช่วงปกติจะเปิดรับเฉพาะประชาชนในเขต อ.เมือง เข้ามารับบริการฉีดวัคซีนเท่านั้น แต่ในช่วงวันเสาร์ – และวันอาทิตย์นี้ 28 – 29 สิงหาคม 2564 ถือว่าเป็นช่วงวันสุดท้ายแล้ว ที่เปิดโอกาสพิเศษ ให้ประชาชน ในกลุ่มผู้สูงอายุในต่างอำเภอ 12 อำเภอ เดินทางเข้ามาฉีดได้ แบบไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า ซึ่งได้เริ่มเปิดดำเนินการมาตั้งแต่วันเสาร์ และวันอาทิตย์ก่อน 21 – 22 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

 

 

โดยบุตรหลาน ที่พาผู้สูงอายุในต่างอำเภอของ จ.ลำปาง มารับบริการฉีดวัคซีน จะได้รับสิทธิฉีดไปด้วย 1 คน ต่อ 1 ครอบครัวของผู้สูงอายุ จึงทำให้บรรยากาศเกิดความคึกคักในทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงวันสุดท้ายของการเปิดให้บริการโครงการดังกล่าว จึงทำให้มีผู้คนแห่เดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนออกบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อหวังที่จะได้เข้าไปฉีดวัคซีนในลำดับแรกๆ จึงเกิดมาพร้อมกันในตอนเช้านับพันคน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องแจกบัตรคิวเรียงตามลำดับ เพื่อทยอยให้ประชาชนเข้าสู่กระบวนการฉีดวัคซีนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่ให้เกิดความแออัดภายในสถานที่ฉีด

 

 

 

สำหรับ จ.ลำปาง ขณะนี้ ภาพรวมของการฉีดวัคซีน มีประชาชนได้รับวัคซีนไปแล้ว 143,863 คน เป็นกลุ่มผู้สูงอายุมากที่สุด รองลงมากลุ่มผู้มีโอกาสติดเชื้อ และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โดยจำนวนวัคซีนที่ฉีดไปแล้วขณะนี้ในพื้นที่ จ.ลำปาง 188,726 เข็ม แบ่งเป็นเข็มแรก 143,863 คน และเข็ม 2 จำนวน 41,002 คน ส่วนบูสเตอร์เข็ม 3 เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 3,861 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง