น้ำกัดเท้าดูแลอย่างไร วิธีดูแลและป้องกันอย่างถูกต้อง

น้ำกัดเท้า คือภาวะที่ผิวหนังบริเวณเท้าถูกน้ำหรือความชื้นเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อต้องลุยน้ำสกปรก ทำให้ผิวเปื่อย ลอก แดง คัน และเสี่ยงติดเชื้อราและแบคทีเรีย หากดูแลไม่ถูกวิธีอาจลุกลามกลายเป็นแผลเรื้อรังได้ บทความนี้สรุปวิธีดูแลน้ำกัดเท้าอย่างถูกต้องและวิธีป้องกันแบบที่ทุกคนสามารถทำได้
สาเหตุของน้ำกัดเท้า
ผิวหนังสัมผัสกับน้ำสกปรกหรือน้ำขังเป็นเวลานาน
เท้าชื้น ไม่แห้ง ระบายอากาศไม่ดี
ใส่รองเท้าที่อับ ชื้น หรือไม่แห้ง
เชื้อราและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแฉะ
อาการของน้ำกัดเท้าที่ควรสังเกต
ผิวเปื่อยลอก
คัน แสบร้อน
ผิวแตกระแหง มีรอยถลอก
ฝ่าเท้าและซอกนิ้วแดงหรือขาวซีดจากความชื้น
มีกลิ่นผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณการติดเชื้อ
วิธีดูแลอาการน้ำกัดเท้าอย่างถูกต้อง
1. ล้างเท้าและทำให้เท้าแห้งทันที
ล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน
ซับให้แห้งสนิททุกครั้ง โดยเฉพาะซอกนิ้ว
หลีกเลี่ยงการใช้สบู่แรงๆ หรือสครับเพราะอาจระคายเคืองเพิ่ม
2. ลดความชื้นบริเวณเท้า
หลังลุยน้ำให้รีบถอดรองเท้าและทำให้เท้าแห้ง
ใช้ผ้าสะอาดหรือพัดลมช่วยลดความชื้น
เปลี่ยนถุงเท้าที่เปียกทันที
3. ใช้ยาทาเพื่อลดอักเสบและเชื้อรา
หากมีอาการคันหรือผิวลอก ควรใช้ยาทากลุ่มต้านเชื้อรา เช่น
โคลไตรมาโซล
คีโตโคนาโซล
ถ้ามีแผลถลอกเล็กน้อย ใช้ครีมปฏิชีวนะอ่อนๆ ที่เหมาะสำหรับแผลผิวหนัง
หลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็น
4. หลีกเลี่ยงการแช่น้ำซ้ำ
ถ้าจำเป็นต้องลุยน้ำ ให้สวมรองเท้าบู๊ทและเปลี่ยนให้แห้งเสมอ
ไม่ควรเดินในรองเท้าเปียกหรืออับชื้น
5. บำรุงและฟื้นฟูผิวเท้า
เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว ให้ทาครีมบำรุงผิวเพื่อลดความแห้งแตก
เลือกครีมชนิดอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม
เมื่อใดควรไปพบแพทย์
ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อไปนี้
แผลบวมแดงมากหรือมีหนอง
เจ็บหรือแสบรุนแรงขึ้น
ผิวคล้ำหรือเนื้อตายบางส่วน
มีไข้ หรือสงสัยติดเชื้อแบคทีเรีย
อาการเป็นนานเกิน 5–7 วันไม่ดีขึ้น
วิธีป้องกันน้ำกัดเท้า
สวมรองเท้าบู๊ทยางเมื่อจำเป็นต้องลุยน้ำ
หลีกเลี่ยงการยืนในน้ำขังเป็นเวลานาน
เช็ดเท้าให้แห้งทันทีหลังจากเปียกน้ำ
ใช้แป้งฝุ่นหรือแป้งยาสำหรับเท้าลดความอับชื้น
เลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดีและไม่อับ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
