น้ำท่วมเยอรมนีและเบลเยียม เริ่มทำความสะอาดครั้งใหญ่หลังน้ำเริ่มลด

Europe: เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ทั่วยุโรปตะวันตก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 180 ราย และยังมีอีกหลายร้อยคนยังสูญหาย หลังฝนหนักเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในเยอรมนีและเบลเยียม

ตอนนี้ ประชาชนในหลายรัฐของเยอรมนีและเบลเยียม ที่ได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุดจากน้ำท่วมครั้งนี้ เริ่มภารกิจครั้งใหญ่ในการทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของพวกเขากันแล้ว ขณะที่ระดับน้ำเริ่มลดลง, ขนาดของความเสียหายกำลังชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังเดินหน้าค้นหาเหยื่อผู้สูญหาย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 180 ราย ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ ยังมีความหวาดกลัวว่า เขื่อนแห่งหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี อาจแตก เนื่องจากปริมาณน้ำมากจนทำให้เขื่อนไม่มีความมั่นคงอย่างยิ่ง, ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำต้องอพยพ และยังมีอีกจำนวนมากอาจถูกร้องขอให้อพยพออกจากบ้านเรือน 

ส่วนเขื่อนอีกแห่งหนึ่งในเขตไฮน์สเบิร์ก ใกล้เมืองดึสเซลดอร์ฟ แตกเมื่อคืนวันศุกร์ (16 กรกฎาคม) ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนหลายร้อยคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว  

ขณะที่ บรรดาผู้นำยุโรปต่างกล่าวโทษสภาพอากาศวิปริตแปรปรวนรุนแรง เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือภาวะโลกร้อน ซึ่งก็สอดคล้องกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ระบุว่า ภาวะโลกร้อนมีแนวโน้มทำให้ฝนตกหนักมากขึ้น ทั้งนี้ โลกร้อนขึ้นประมาณ 1.2 องศาเซลเซียส ตั้งแต่เริ่มยุคอุตสาหกรรม 

ในเยอรมนี ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 143 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 4 รายด้วย ประธานาธิบดีแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ ของเยอรมนี กล่าวว่า เขารู้สึกงุนงงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยในวันเสาร์ (17 กรกฎาคม) 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยในเยอรมนีประสบกับอุปสรรคจากสภาพที่ยากลำบากในวันศุกร์ (16 กรกฎาคม) ปล่อยให้บรรดาญาติพี่น้องของผู้สูญหายรอด้วยจิตใจกระวนกระวายในการรอฟังข่าว เครือข่ายโทรศัพท์ล่ม, ถนนหนทางได้รับความเสียหายอย่างหนัก และบ้านเรือนมากกว่า 100,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ 

แม้ว่าจะยังมีความพยายามกู้ภัยอยู่ ก็มีประชาชนเดินทางไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองไมนซ์ เรียกร้องประชาชนอย่าเดินทางเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งมีคำเตือนในลักษณะเดียวกันนี้ในเนเธอร์แลนด์ด้วย

รัฐนอร์ท ไรน์-เวสต์ฟาเลีย, รัฐไรน์แลนด์-พาลาติเนต และรัฐซาร์ลันด์ ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดจากฝนตกหนักครั้งนี้ โดยเฉพาะในเขตเมืองอาร์ไวเลอร์ รัฐไรน์แลนด์-พาลาติเนต เจ้าหน้าที่กล่าวว่า มีประชาชนประมาณ 1,300 คนสูญหายในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนดังกล่าวลดลงทุกชั่วโมง เพราะบางคนก็พบตัวแล้ว 

ผู้เสียชีวิตในรัฐไรน์แลนด์-พาลาติเนต ทางตะวันตกของเยอรมนี เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 100 ราย และอีก 43 รายอยู่ในรัฐนอร์ท ไรน์-เวสต์ฟาเลีย ที่อยู่ติดกัน

ส่วนในเบลเยียม กองทัพส่งทหารช่วยกู้ภัยและอพยพประชาชนใน 4 จังหวัดจากทั้งหมด 10 จังหวัดของประเทศ นายกรัฐมนตรีอเล็กซานเดอร์ เด โกร ของเบลเยียม ประกาศให้วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นวันไว้อาลัยแห่งชาติ เขาบอกว่า น้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 27 รายในเบลเยียม อาจเป็น “ความหายนะที่รุนแรงที่สุดในประเทศเท่าที่เคยเห็นมา” 

เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากฝรั่งเศส อิตาลีและออสเตรีย ถูกส่งเข้ามายังเมืองลิเอจ ซึ่งมีประชาชนอพยพจำนวนมากหลังน้ำท่วมฉับพลัน ขณะเดียวกัน ในเนเธอร์แลนด์ มีประชาชนหลายพันคนทิ้งบ้านเรือนในจังหวัดลิมบืร์ค (Limburg) เพราะระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นหลากเข้าท่วมหลายเมืองและเขื่อนกั้นน้ำพัง แต่น้ำกำลังลดระดับลงในจังหวัดมาสทริชท์ ทางตอนใต้ของประเทศ และเมืองใกล้เคียง ซึ่งในวันศุกร์ประชาชนสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว 

ในสวิตเซอร์แลนด์ ทะเลสาบและแม่น้ำหลายสาย ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นหลังฝนตกหนัก แม่น้ำที่ไหลผ่านกรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ระดับน้ำล้นฝั่งแล้วในวันศุกร์ ส่วนทะเลสาบลูเซิร์น ก็น้ำล้นไหลเข้าท่วมเมืองและประชาชนในเมืองบาเซิล ได้รับคำเตือนให้อยู่ห่างจากแม่น้ำไรน์