รีเซต

ครม.ไฟเขียวงบกลางกว่า 750 ล้าน เยียวยาแรงงานจากอิสราเอลเพิ่มคนละ 5 หมื่น

ครม.ไฟเขียวงบกลางกว่า 750 ล้าน เยียวยาแรงงานจากอิสราเอลเพิ่มคนละ 5 หมื่น
TNN ช่อง16
12 ธันวาคม 2566 ( 16:43 )
45

รมว.แรงงาน เผยข่าวดี ครม.ไฟเขียวงบกลาง กว่า 750 ล้านบาท เยียวยาแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล เพิ่มคนละ 50,000 บาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เรื่อง ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 750 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการเยียวยาแรงงานไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567


นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ในเบื้องต้นของแรงงานไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการดูแลจากภาครัฐอย่างจริงจัง 


กระทรวงแรงงานจึงได้มีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาแรงงานไทยจากการขาดรายได้ในการประกอบอาชีพ โดยเสนอของบประมาณเพื่อใช้จ่ายเงินเยียวยาให้กับแรงงานไทย ซึ่งประมาณการแรงงานไทย จำนวน 15,000 คน คนละ 50,000 บาท ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ ธ.ค.66- ก.ย.67 


โดยแรงงานที่ได้รับประโยชน์ แบ่งเป็น 4 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย 


-กลุ่มแรก แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล และเดินทางกลับประเทศไทยหลังวันที่ 7 ตุลาคม 2566 


-กลุ่มที่ 2 แรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล 


-กลุ่มที่ 3 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอลและเดินทางกลับประเทศไทย ก่อนวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยใช้ Re-Entry Visa แต่ไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้เนื่องจากกรมการจัดหางานชะลอการเดินทางด้วยเหตุภัยสงครามในประเทศอิสราเอล 


-กลุ่มที่ 4 ประมาณการแรงงานไทยที่คาดว่าจะประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย/เดินทางกลับไทยเพิ่มเติม รวมถึงแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน


นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการเยียวยาแรงงานไทยจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลแล้ว กระทรวงแรงงานจะขอรับการจัดสรรงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ ประมาณ 3 - 5 วัน และเมื่อได้รับการจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณแล้ว ผู้มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาก็สามารถมายื่นเอกสารคำร้องณ กระทรวงแรงงานหรือสำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด 


โดยเงื่อนไขของผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยานั้นต้องยื่นคำร้องด้วยตนเองเท่านั้น ส่วนกรณีเสียชีวิตให้ทายาทผู้มีสิทธิเป็นผู้ยื่นคำร้อง ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะมีคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วน ก็จะสามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีสิทธิหรือทายาทผู้มีสิทธิ (กรณีเสียชีวิต) ภายใน 7 - 10 วัน โดยระหว่างนั้นผู้ยื่นคำร้องสามารถตรวจสอบสถานะคำร้องได้โดยการสแกน QR CODE ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ผู้รับคำร้อง




ที่มา รัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง