หมาหอนชวนขนลุก! กู้ภัยฝ่าน้ำท่วมความมืดกู้ร่าง"หลวงตา"เฝ้าวัดจมน้ำข้างกุฏิร้าง4วัน สังเวยศพที่2
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.2563 พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุพบศพพระจมน้ำเสียชีวิตภายในวัดใหม่ บ้านท่าจีน ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิกุศลสถานตรัง
ที่เกิดเหตุภายในวัดซึ่งมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร หน่วยกู้ภัยต้องนำเรือท้องแบนพร้อมไฟส่องสว่างผ่านเข้าทางสวนยางพาราด้วยความยากลำบาก จนภายในวัดไม่มีไฟส่องสว่างเต็มไปด้วยความมืด มีเสียงสุนัขหลายตัวที่หนีน้ำท่วมส่งเสียงเห่าหอนออกมาจากโบสถ์และกุฏิเสียงดังชวนขนลุก บริเวณข้างกุฏิร้างพบศพพระลอยคว่ำหน้าอยู่พร้อมกับซากสุนัขสีดำอีก 1 ตัว จึงนำร่างออกมาชันสูตรพลิกศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน ทราบชื่อต่อมาคือพระหม่อน อายุประมาณ 60 ปี
นายวิรัตน์ รักนาย อดีตส.อบจ.ตรัง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พื้นที่ตรงนี้มีน้ำท่วมสูง 2-3 เมตร เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมาชาวบ้านเข้าไปถวายอาหาร ยังพบเห็นพระหม่อนอยู่ภายในวัด ต่อมาปรากฎว่าเมื่อไปเรียกที่กุฏิแล้วไม่มีเสียงตอบ มีเพียงเสียงสุนัขเห่าออกมาเท่านั้น ชาวบ้านนึกว่าหนีน้ำไปจำวัดที่อื่น จนเวลาผ่านไป 4 วัน น้ำลดระดับลงเหลือ 1 เมตรชาวบ้านจึงเข้าไปล้างทำความสะอาดภายในโบสถ์ แล้วได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนระงมทั่ววัด เมื่อมองไปข้างกุฏิร้างก็ถึงกับตกใจเมื่อเห็นร่างพระหม่อนลอยคว่ำหน้าขึ้นอืดจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
"สำหรับวัดใหม่เป็นวัดที่มีอยู่มานานถือเป็นวัดในตำนาน มีมาพร้อมกับวัดประสิทธิชัย หรือวัดท่าจีน แต่ขาดการบำรุงรักษาก่อนหน้านี้มีพระจำวัดอยู่เต็ม ต่อมาเหลือพระหม่อนจำวัดอยู่เพียง 1 รูป ปกติพระหม่อนมักเก็บตัวอยู่ภายในวัดไม่ค่อยสุงสิงกับชาวบ้าน ทุกวันตอนเช้าจะมีรถมารับไปบิณฑบาตรที่ตลาดในตัวเมืองก่อนกลับเข้ามาวัด เท่าที่ทราบเป็นพระใจดี เลี้ยงสุนัขไว้ในวัดหลายตัว ก่อนเกิดเหตุสลดครั้งนี้ ส่วนสุนัขที่ยังอยู่ในวัดก็จะประสานไปยังเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือต่อไป"
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ.ศูนย์ตรัง ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมเร่งประสานตามหาญาติเข้ามาให้ข้อมูล สำหรับการเสียชีวิตของพระหม่อม นับเป็นรายที่ 2 ของจ.ตรัง ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้