"เชื้อราซ่อนพิษ" ล้างบ้านหลังน้ำท่วม เสี่ยงติดเชื้อโรคถึงชีวิต

น้ำท่วมหาดใหญ่ แม้ทุกวันนี้สถานการณ์แนวโน้มดีขึ้น น้ำแห้ง แต่ภัยร้ายยังไม่หมด  เพราะความเสี่ยงถึงชีวิตซ่อนตัวอยู่ในคราบน้ำ คราบดินโคลน ที่เป็นผลจากการจมน้ำต่อเนื่องหลายวัน การกลับเข้าสู่บ้านจึงไม่อาจให้ความสำคัญแค่เรื่องของการเก็บกวาด แต่ต้องตระหนักถึงการเผชิญหน้ากับ "เชื้อราและเชื้อโรค" ที่ฟุ้งกระจายอยู่ทุกอณู

นี่คือสถานการณ์ที่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมต้องเผชิญหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจการฟื้นฟูและทำความสะอาดบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมขังมาอย่างยาวนาน 

ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ค Sonthi Kotchawat เตือนประชาชนเข้าไปดูแลและเก็บกวาดบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมมาอย่างยาวนาน จะต้องระวังเชื้อราที่ฟุ้งกระจายอยู่ในบ้าน 

โดยเฉพาะการเอาน้ำฉีดแรง ๆ เพื่อทำความสะอาด จะยิ่งเพิ่มเกิดการฟุ้งกระจายมากขึ้น เชื้อราที่ฟุ้งกระจายในบ้านมีอันตรายต่อสุขภาพทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยอาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น จาม น้ำมูกไหล ระคายเคืองตา ผื่นคันและปวดศีรษะ รวมถึงส่งผลให้โรคระบบทางเดินหายใจกำเริบหรือรุนแรงขึ้น เช่น หอบหืด, หลอดลมอักเสบ, ปอดบวม 

ขณะที่ในบางรายที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงถึงขั้นเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนี้ยังต้องระวัง สัตว์มีพิษ, เพดานหรืออาคารที่อาจจะถล่มลงมาด้วย

นอกจากพิษของเชื้อรา ยังมีโรคที่มากับน้ำ ได้แก่ โรคตาแดง น้ำกัดเท้า อุจจาระร่วงเฉียบพลัน โรคอาหารเป็นพิษ และโรคฉี่หนู ดังนั้นการเข้าล้าง ทำความสะอาดบ้านหลังสถานการณ์น้ำทท่วทจึงต้องสัมผัสกับน้ำท่วมขังให้น้อยที่สุด เช่น ดื่มน้ำสะอาด ทานอาหารร้อน ใช้ช้อนกลาง สวมแว่นนอน กางมุ้ง เมื่อลงไปในน้ำที่ท่วมขัง จะต้องสวมหน้ากากอนามัย สวมแว่นครอบหน้า ใส่ถุงมือสวมรองเท้ายางเป็นอย่างน้อยด้วย

สร้าง "ชุดเกราะ" ก่อนเข้าบ้าน

ดร.สนธิ แนะนำว่าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องส่งชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยให้ประชาชน เช่น ถุงมือยาง รองเท้ายาง แว่นตาครอบหน้า หน้ากาก N95 เพื่อป้องกันเชื้อราและเชื้อโรคที่มากับน้ำ รวมทั้งถุงดำเพื่อรวบรวมขยะออกมา 

โดยที่ดีที่สุดคือหน่วยงานราชการจะต้องเข้าไปดูแลความปลอดภัยของอาคารและทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนที่จะให้ประชาชนกลับเข้าไป ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (ศป.กฉ.) และกระทรวงสาธารณสุข จะต้องรีบสื่อสารบอกประชาชนถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นหากเข้าไปทำความสะอาดบ้านโดยไม่ถูกหลักสุขาภิบาล รวมทั้งต้องรีบสื่อสารต่อประชาชนถึงแนวทางที่ถูกต้องในการเข้าไปจัดการบ้านเรือนให้ถูกหลักสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมหลังน้ำท่วม