“ผู้เลี้ยง” ยอมตรึงราคาไข่ไก่คละ 3.40 บาท แลกรัฐคงต้นทุนอาหารสัตว์
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เปิดเผยถึงการหารือร่วมกับกรมการค้าภายใน เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ว่า เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของทุกฝ่าย กรมการค้าภายใน ต้องการให้สมาคมตรึงราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม อยู่ที่ 3.40 บาทต่อฟอง ไว้ก่อน โดยที่สมาคมก็ขอให้กรมตรึงราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เช่นกัน เพราะปัจจุบันต้นทุนเลี้ยงไก่ไข่ปรับตัวสูงขึ้น จากวัตถุดิบอาหารสัตว์ขาดแคลนและมีราคาแพง ทำให้ต้องปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม เป็น 3.40 บาทต่อฟอง และประกาศเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา
“ตอนนี้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละกว่า 13 บาท กากถั่วเหลืองจากกิโลกรัมละกว่า 10 บาท เป็นกว่า 20 บาท ขณะที่ช่วงนี้เข้าหน้าร้อนเป็นปัจจัยหนึ่งกระทบต่อผลผลิตไข่ไก่ลดลง ซึ่งเป็นปกติที่ทุกปีเมื่อเข้าหน้าร้อน จะพบปัญหาเปอร์เซ็นต์ผลผลิตไข่ไก่จะน้อยลง เช่น หากปีใดผลผลิตลดลง 3% จะส่งผลต่อขนาดไข่ไก่ลดลง จะมีผลต่อขนาดเบอร์ไข่ เช่น เคยขนาดเป็นเบอร์1 ก็จะเป็นขนาดเบอร์ 2 เบอร์ หรือ เบอร์2 ไปเป็นเบอร์3 เป็นต้น ตรงนี้เป็นต้นทุนที่ผู้เลี้ยงแบกรับภาระและได้รายได้ลดลงจากขนาดไข่เล็กลง แต่ต้องแบกรับต้นทุนยังสูงเท่าเดิมหรือสูงขึ้น ” นายมาโนช กล่าว
นายมาโนช กล่าวอีกว่า การปรับราคาขายไข่ไก่ ขึ้นกับกลไกตลาดและต้นทุน เป็นปัจจัยถูกกดดัน ถ้าต้นทุนสามารถยืนราคาไม่ปรับขึ้น ราคาไข่คละก็สามารถตรึงราคาขายได้เช่นกัน สำหรับปริมาณไข่ไก่ปัจจุบันออกสู่ตลาดประมาณ 40 ล้านฟองต่อวัน แต่จากสภาพอากาศร้อนและแปรปรวน ผลผลิตวันนี้จะไม่ได้เท่านั้นแล้ว อีกทั้งเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่แม่ไก่ถูกปลดกรงตามรอบเป็นจำนวนมาก แม้เดือนมีนาคมจะปลดกรงลดลง แต่มีการปลดล่วงหน้าไปแล้ว ทำให้ต้องใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงแม่พันธ์ใหม่ จึงส่งผลต่อผลผลิตออกสู่ตลาดไม่ได้เท่าเดิม