สพฉ.ช่วยส่งผู้ป่วยโควิดรักษาแล้ว รอไม่ถึง 1 วัน หลังรพ.ให้ไปเอง ย้ำห้ามเดินทางเอง

ข่าววันนี้ จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ รพ.รัฐแห่งหนึ่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนและพบการติดเชื้อ โดยแจ้งไปยังบุคคลดังกล่าว เพื่อให้เดินทางมารักษาตัวที่ รพ.เอง เนื่องจากไม่มีรถนำส่ง ทำให้ผู้ป่วยกังวลใจว่าจะแพร่เชื้อหากเดินทางมาเองผ่านรถสาธารณะ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ สพฉ. ประสานงานไป รพ.รัฐดังกล่าว เพื่อหารือว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งความเป็นจริงมีเคสลักษณะนี้เช่นกัน แต่หลังจากทราบ สพฉ.ได้รีบดำเนินการและผู้ป่วยรอไม่นานไม่ถึง 1 วันก็มีรถไปรับเพื่อรักษาต่อทันที เพราะข้อเท็จจริงแล้วระบบการส่งต่อผู้ป่วยโควิดจะมีขั้นตอนในการดำเนินการ ซึ่งทาง รพ.ที่ทำการตรวจเชื้อโควิด เมื่อพบผู้ป่วยจะทราบขั้นตอนนี้ดีอยู่แล้วว่า หากมีการตรวจเมื่อพบเชื้อก็จะผ่านขั้นตอนการนำส่งโดย 1669

“ก่อนหน้านี้เคยมีเคสประกันสังคมที่ตรวจเชิงรุกโดยรพ.เอกชน แต่ขณะนั้น รพ.เอกชนรับไม่ไหว จึงมีการส่งเรื่องมายัง สพฉ. เราก็ดำเนินการให้ทันที สิ่งสำคัญต้องยึดหลักการต้องไม่ให้ผู้ป่วยเดินทางมารักษาด้วยตัวเอง ขณะนี้ทาง สพฉ. ดำเนินการไปกว่า 8 พันเคสแล้ว ซึ่งตัวเลขก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ สพฉ. เตรียมพร้อมมาตลอด โดยปัจจุบันมีขึ้นทะเบียนประมาณ 150 ทีม แต่ที่ผ่านมาทำงานอยู่ที่ 20-30 ทีมต่อวัน แต่ในกรณีที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เรายังมีทีมอีกมาก”

ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวว่า จึงขอให้มั่นใจศักยภาพทีมเคลื่อนย้าย อย่างไรก็ตาม การรักษาผู้ป่วยสีเขียว สีเหลืองเรามีพร้อม แต่ตอนนี้ที่ต้องระวังคือ สีแดง สิ่งสำคัญต้องช่วยกันหมด ไม่ใช่แค่สถานพยาบาล แต่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ ประชาชนต้องช่วยกันป้องกันโรค มีวินัยในการปฏิบัติตัวอย่างสม่ำเสมอ ลดการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ เพราะตอนนี้ที่สำคัญต้องลดการไปอยู่ห้องไอซียูให้มากที่สุด