'วิษณุ' เข้ม สั่งปิดบางร้านแล้ว หลังคลายล็อก แต่ไม่ปฏิบัติตาม

‘วิษณุ’ เข้ม สั่งปิดบางร้านแล้ว หลังคลายล็อก แต่ไม่ปฏิบัติตาม
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนไปรุมแย่งซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลัง ศบค.ผ่อนคลายให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่ต้องซื้อกลับไปดื่มที่บ้าน ว่า ต้องใช้วิธีเตือนกันก่อน เพราะต่างคนต่างยังไม่คุ้น และก็ต้องรีบจัดระบบเสียใหม่ และได้ย้ำแล้วว่าทุกคนต้องระมัดระวังตัวเอง ทั้งห้างสรรพสินค้าและผู้บริโภค คือทั้งคนซื้อ คนขาย
เมื่อถามว่า ศบค.จะมีมาตรการะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า กำลังดูกันอยู่ เพราะได้บอกแล้วว่าถ้าคุมไม่อยู่ก็ต้องห้าม หรือปิดเฉพาะแห่ง ปิดห้างนั้น ร้านนั้น แต่ร้านอื่นไม่เกี่ยว แต่ถ้าลุกลามมากก็อาจจะปิดเป็นกิจการๆ ไปเลย ซึ่งถ้าปิดเป็นกิจการ 17 ห้างก็โดนหมด 6 กิจการก็โดนหมด เช่นในต่างจังหวัด ร้านอาหารที่เปิดก็เปิดหมด ถ้าร้านไหนไม่ระมัดระวัง ไม่มีการป้องกันก็ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปิดเฉพาะร้านนั้นได้ร้านเดียว
เมื่อถามว่า ยังมี 5 จังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ผ่อนคลายให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายวิษณุกล่าวว่า จังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดคุมเองก็ไม่เป็นไร เพราะเขาประเมินความเสี่ยงของเขาเอง ต้องเข้าใจว่าคำสั่งมี 2 ระดับ คือคำสั่งกลางของรัฐบาล ซึ่งระบุเพียงเรื่องการให้ดื่มในร้าน อีกระดับหนึ่งคือระดับของผู้ว่าฯ ซึ่งสามารถมีคำสั่งเองตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ใช่สั่งตามพระราชกำหนด อันนั้นก็ดูเป็นจังหวัดๆ ไป แต่ถ้าจังหวัดไหนใช้อำนาจ พ.ร.บ.โรคติดต่อ สั่งปิดแล้ววันหลังจะเปลี่ยนเป็นเปิดนั้นไม่ได้ จะต้องมาให้ส่วนกลางเป็นคนอนุญาต ซึ่งหมายความว่าตอนสั่งปิดผู้ว่าฯเห็นว่าจะต้องเข้ม แต่เมื่อเห็นว่าไม่เป็นไรแล้วจะไปเปิดอาจจะมีผลกระทบอย่างอื่นที่ทางจังหวัดนึกเหตุผลไม่ออก แต่รัฐบาลรู้
เมื่อถามว่า ส่วนกลางจะจับตาดูกี่วันถึงจะพิจารณาว่าควรมีมาตรการใดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ดูทุกวัน แต่นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่า ปกติ ประมาณ 14 วัน เพราะทางแพทย์บอกแล้วว่า 14 วัน อาการจะปรากฎ
เมื่อถามย้ำว่า แต่ถ้าร้านไหนทำผิด รุ่งขึ้นสามารถปิดได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า วันเดียวหรือ 3 วันก็ปิดได้เลย อย่างเช่นวันนี้ก็มีถูกปิดแล้วใน กทม. ซึ่งมีรายงานมาว่าเป็นการปิดเฉพาะแห่ง แต่ตนไม่ทราบว่าที่ไหน ในรายงานบอกว่าเป็นร้านอาหาร ที่เตือนแล้วไม่ฟัง