รีเซต

ถอดบทเรียนคลิปเสียง กลเกม "ฮุนเซน" ใช้สงครามจิตวิทยา บั่นทอนผู้นำไทย

ถอดบทเรียนคลิปเสียง กลเกม "ฮุนเซน" ใช้สงครามจิตวิทยา บั่นทอนผู้นำไทย
TNN ช่อง16
19 มิถุนายน 2568 ( 23:54 )
6

พล.อ.ต.ณรงค์ชัย คงแก้ว (เสธ.แก้ว) อดีตนายทหารประจำกองทัพอากาศ ที่ดูแลด้านระบบสื่อสาร มีประสบการณ์ด้านสงครามด้านข่าวสารมาอย่างยาวนานวิเคราะห์สงครามจิตวิทยาของกัมพูชา ที่ใช้การปล่อยคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง ฮุนเซน กับ นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร 

“7 นาทีแรก ที่มีการปล่อยคลิปเสียง เลือกตัดบางช่วงบางตอนที่จะส่งผลกระทบต่อ “จิตใจคนไทย” และนัยยะสำคัญ คือการพูดถึง “แม่ทัพภาค” ซึ่งแน่นอนครับว่าผู้ที่ปล่อยคลิปจะต้องไม่หวังดีกับประเทศไทย โดยหวังให้รัฐบาลและกองทัพไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความบาดหมางหรือรอยร้าว เพื่อง่ายต่อการแทรกแซง ยุยง ปลุกปั่น แล้วก็ทำสำเร็จ” พล.อ.ต.ณรงค์ชัย ระบุ   

นายกขายชาติ กับข้อกล่าวหาที่เกินจริง?

เสธ.แก้ว ระบุว่าทันทีที่คลิปถูกเผยแพร่ เสียงวิจารณ์ก็ดังขึ้นอย่างร้อนแรงในทุกแพลตฟอร์ม มีทั้งเสียงตำหนิ เสียงเตือน ไปจนถึงคำกล่าวหาหนักหน่วงระดับว่า นายกขายชาติ แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่เปิดใจฟังเนื้อหาอย่างละเอียด 

"ผมกลับเห็นต่าง... เพราะสิ่งที่ผมได้ยินตามคลิปเสียง ไม่ใช่คำสั่งให้ถอนทหาร

ไม่ใช่การยอมยกดินแดนและไม่มีข้อความไหนที่เข้าข่ายการ "ขายชาติ" ตามข้อกล่าวหาหนัก ๆ เลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่ได้ยินคือการสนทนาเชิงประนีประนอม ที่อาจ อ่อนหัดทางการทูตไปบ้าง ไม่เฉียบคมอย่างที่สังคมคาดหวัง แต่ก็ไม่ถึงกับ ทรยศต่อผลประโยชน์ชาติ อย่างที่บางฝ่ายพยายามชี้นำให้คนเชื่อ"

 

 

“การชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการชนะโดยไม่ต้องรบ”

อดีตนายทหารประจำกองทัพอากาศ  ยกตำราพิชัยสงคราม “ซุนวู” มาอธิบายเปรียบเทียบและทำความเข้าใจ โดยกล่าวว่าซุนวู: รู้เขา รู้เรา ไม่ต้องรบก็ชนะ หากใครที่เคยศึกษาพิชัยสงครามของ ซุนวู จะเข้าใจดีว่า

คลิปเสียงนั้น หากฟังให้ดี จะเห็นว่ามีความพยายามของผู้นำไทย ที่จะเข้าใจฝ่ายตรงข้าม หยั่งเชิงความคิด สร้างพื้นที่การเจรจา เพื่อรักษาความสัมพันธ์ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนตามแนวชายแดน

นั่นคือ “รู้เขา” เพื่อ “รู้เรา” ก่อนจะเปิดศึก แน่นอน บทสนทนาไม่ได้สมบูรณ์แบบ มีบางช่วงที่ฟังแล้วระคายหู ดูขาดความสุขุมไปบ้าง

และในแง่ของ “กาลเทศะ” หรือ “การเตรียมตัว” ผมเห็นว่าท่านนายกฯ ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอย่างมาก โดยเฉพาะในฐานะผู้นำประเทศที่ควรจะวางน้ำหนักคำพูดอย่างรอบคอบกว่านี้


ความผิดพลาด ไม่ใช่อาชญากรรม

สิ่งที่ผิดพลาดในคลิปนี้ คือการตัดสินใจเจรจาแบบไม่ปรึกษาทีมยุทธศาสตร์ คือการพูดในโทนที่อาจทำให้คนฟังรู้สึกว่าอ่อนข้อคือภาษากายและน้ำเสียงที่ไม่สะท้อนความมั่นคงของภาวะผู้นำ

...แต่ไม่ใช่ “การขายชาติ” อย่างที่บางคนรีบตัดสิน

เพราะตลอดคลิป ผมไม่พบคำพูดไหนที่แสดงว่าไทยจะยกพื้นที่ ยุติการป้องกัน หรือยอมอ่อนข้อแบบไม่มีเงื่อนไขไม่มีสัญญา ไม่มีการแลกเปลี่ยนที่ผิดหลัก ไม่มีการรับปากอย่างเป็นทางการที่ทำให้ไทยเสียอธิปไตยแม้แต่น้อยมีแต่คำพูดในลักษณะ “พูดดีไว้ก่อน” เพื่อประคองสถานการณ์

หรือถ้ามี ผมก็อยากให้คนที่กล่าวหาว่าท่านนายก “ขายชาติ” ชี้ให้ชัด…ว่าประโยคนั้นอยู่ตรงไหน

ข้อเรียกร้องที่สมเหตุสมผลคือ “ให้ปรับปรุง” ไม่ใช่ “ตัดหัว” ผมเชื่อว่าประชาชนมีสิทธิ์เต็มที่ในการตำหนิ วิจารณ์ และเรียกร้องให้นายกฯ แสดงภาวะผู้นำให้ดีกว่านี้

เราอยากเห็นผู้นำที่รอบคอบ สุขุม มั่นคง

เราอยากได้คนที่คุยกับต่างประเทศโดยไม่ต้อง “เกรงใจเกินเหตุ”

แต่ทั้งหมดนั้นควรอยู่ในกรอบของเหตุผล ไม่ใช่การด่าทอจนเกินความเป็นจริง

เราสามารถ “เรียกร้องให้ปรับปรุง”

โดยไม่ต้อง “กระโดดข้ามขั้นไปประหารทางการเมือง”

ใช้เหตุผลไม่ใช่อารมณ์

คลิปเสียงครั้งนี้ควรเป็นบทเรียน และควรนำไปสู่การพัฒนาทั้งตัวบุคคลและระบบที่รองรับการต่างประเทศในรัฐบาล แต่มันไม่ควรเป็นอาวุธปลุกระดมเพื่อดึงการเมืองไทยกลับเข้าสู่วงจรความเกลียดชังอีกครั้ง

เพราะเราสามารถมี “ผู้นำที่ผิดพลาด” โดยไม่ต้องรีบดึงข้อหาว่าเขาคือ “ศัตรูของชาติ”

ติเพื่อก่อครับ!

ผมเชื่อว่า...สงครามจิตวิทยาครั้งนี้เพียงเพิ่งเริ่มต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง