บริษัทเหมืองแร่แถลงการณ์ "ขอโทษ" ที่ระเบิดถ้ำโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์ของชาวอะบอริจิน
บริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ-ออสเตรเลียออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจที่ระเบิดทำลายถ้ำโบราณของชาวอะบอริจินอายุ 46,000 ปี ระหว่างขยายพื้นที่ทำเหมืองแร่เหล็กในภาคตะวันตกของออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ถ้ำ Juukan Gorge ในภูมิภาคพิลบารา ซึ่งมีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ถูกระเบิดทำลายตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 พ.ค. สร้างความตกใจและเสียใจให้ชุมชนชาวอะบอริจินเป็นอย่างมาก โดยผู้นำชาวพื้นเมืองบอกว่าเหตุการณ์นี้นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่ประเมินค่าไม่ได้
- ใครสลักภาพปริศนา "มาร์รีแมน" บนที่ราบสูงของออสเตรเลีย?
- เกวเดน เบย์ลส์: เด็กชายชาวออสเตรเลียที่ถูกรังแก เดินนำทีมรักบี้ออลสตาร์ลงสนาม
- คสช.ออกคำสั่งยกเลิก 3 องค์กร-ระงับกิจการเหมืองแร่ทองคำ
"บริษัทขออภัยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น" นายคริส ซอลส์บูรี ประธานบริษัทริโอตินโตกล่าวขอโทษต่อชุมชนพีเคเคพี (Puutu Kunti Kurrama and Pinikura People-PKKP) ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองที่เป็นเจ้าของและดูแลรักษาแหล่งโบราณคดีแห่งนี้
"บริษัทจะให้ความร่วมมือกับชุมชนชาวพื้นเมืองเพื่อเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกระชับความสัมพันธ์กับชุมชนต่อไป สำหรับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า บริษัทจะทบทวนแผนการทำเหมืองแร่ในพื้นที่โบราณคดีแห่งนี้"
บริษัทริโอตินโตได้รับอนุญาตจากทางการออสเตรเลียให้ขยายพื้นที่ทำเหมืองมาจนถึงแหล่งโบราณคดีของชาวอะบอริจิน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการค้นพบโบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมาก รวมทั้งเข็มขัดที่ทำจากเส้นผมมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าชุมชนพีเคเคพีสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์ถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตอยู่เมื่อ 4,000 ปีก่อน
ความสูญเสียครั้งใหญ่
"บริษัทตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับแผนประกอบการเพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการพื้นที่มรดกทางประวัติศาสตร์ในฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียให้ครอบคลุมมากขึ้น" นายซอลส์บูรีกล่าว
นอกจากสินแร่เหล็กแล้ว บริษัทริโอตินยังมีแผนการลงทุนทำเหมืองแร่หลายชนิดในออสเตรเลียทั้งบอกไซต์เพื่อผลิตอะลูมิเนียม เพชรและยูเรเนียม
นายจอห์น แอชเบอร์ตัน ผู้แทนชุมชนพีเคเคพี บอกว่าการทำลายถ้ำ Juukan Gorge นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่
"ถ้ำโบราณแห่งนี้เป็นถ้ำอะบอริจินที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย มีถ้ำเพียงไม่กี่แห่งในประเทศที่เก่าแก่เท่านี้ คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของถ้ำแห่งนี้ประเมินค่าไม่ได้" นายแอชเบอร์ตันกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์
"พวกเราเจ็บปวดและเศร้าใจอย่างมากที่ถ้ำแห่งนี้ถูกทำลายไป เราใจสลายที่สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเราเข้ากับบรรพบุรุษและแผ่นดินเกิดของเราถูกตัดขาดลง"
นายเคน ไวแอท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการชนพื้นเมือง ซึ่งเป็นชาวอะบอริจินบอกว่า "เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจได้" ว่าเหตุใดทางการจึงปล่อยให้มีการระเบิดในพื้นที่นี้ได้ แม้เขาจะเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็น "ความผิดพลาด" แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้บังคับใช้กฎหมายในการปกป้องแหล่งโบราณคดีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างที่ควรจะเป็น