'วงการกาแฟ' เวียดนาม จ่อปรับตัวตามกฎการทำลายป่าของอียู
ฮานอย, 19 ส.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) เวียดนาม นิวส์ (Vietnam News) สื่อท้องถิ่นของเวียดนาม รายงานว่าอุตสาหกรรมกาแฟของเวียดนามควรยกระดับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของห่วงโซ่คุณค่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
ในฐานะผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ไปยังสหภาพยุโรป เวียดนามควรเตรียมความพร้อมสำหรับกฎหมายนี้ ซึ่งกำหนดว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่า หรือพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม จึงจะมีสิทธิ์เข้าสู่ตลาดของสหภาพยุโรปได้
เวียดนาม นิวส์ ระบุโดยอ้างอิงสำนักงานการค้าเวียดนามในเบลเยียม ว่าการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติตามข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า
กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม เผยว่าการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของที่ดินทุกแปลง ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฎระเบียบฯ ถือเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุด เนื่องจากเป็นงานที่มีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ดำเนินงานจำนวนมาก จึงทำให้เวียดนามต้องพัฒนาฐานข้อมูลระดับชาติเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกป่าและกาแฟ
เมื่อไม่นานนี้ เล มินห์ ฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ เน้นย้ำในการประชุมเชิงปฏิบัติการ ว่ากฎระเบียบดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานของกาแฟ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ รวมถึงยาง อย่างไรก็ตาม ยังถือเป็นโอกาสสำหรับภาคการเกษตรของเวียดนามในการพัฒนาอุตสาหกรรมให้มีความโปร่งใส รับผิดชอบ ยั่งยืน และเติบโตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อนึ่ง รายงานการนำเข้า-ส่งออกของเวียดนาม ระบุว่าในปี 2022 เวียดนามสร้างรายได้จากการส่งออกกาแฟสู่ตลาดสหภาพยุโรปเป็นมูลค่า 1.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.3 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็นร้อยละ 40 ของการส่งออกกาแฟทั้งหมดของเวียดนาม