กระแสน้ำไหลแรง อาหลานตกปลากลางแม่น้ำบางปะกง ซัดเรือจมหาย ก่อนพากันลอยคอหาทางรอด สุดท้ายสูญหาย 1 ราย

กระแสน้ำไหลแรง อาหลานตกปลากลางแม่น้ำบางปะกง ซัดเรือจมหาย ก่อนพากันลอยคอหาทางรอด สุดท้ายสูญหาย 1 ราย

เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 16 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุการณ์เรือหางยาวหาปลา ซึ่งเป็นเรือที่ต่อขึ้นด้วยไม้แบบสองตอนท้ายตัดปลายด้านหน้าแหลม ล่มลงที่กลางลำน้ำบางปะกง ในเขตพื้นที่ ม.3 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นคุ้งน้ำรูปกระเพาะหมูขนาดใหญ่ ทำให้มีผู้สูญหายภายในน้ำจำนวน 2 ราย เป็นอาวัย 63 ปี และหลานชายวัย 42 ปี ที่พากันออกมาตกปลาที่กลางลำน้ำบริเวณดังกล่าวด้วยกันตั้งแต่เมื่อเวลา 19.00 น.

ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาน้ำเริ่มไหลลง และมีกระแสน้ำไหลเชี่ยววนตามความโค้งของคุ้งลำน้ำ จึงทำให้เรือตกปลาแบบหางยาวขนาดเล็กที่ต่อขึ้นมาด้วยไม้แบบบางเบา และมักจะถูกนำไปใช้เป็นเรือแข่งขันทำความเร็วกันนั้น ได้ถูกแรงคลื่นซัดจนพลิกคว่ำจมลงที่กลางลำน้ำในทันที เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีกระแสลมที่เหนือผิวน้ำพัดแรงร่วมด้วย และหลังจากเกิดเหตุตัวเรือซึ่งมีเครื่องยนต์ถ่วงที่ด้านท้ายเรือ ได้จมหายไปกับกระแสน้ำในทันที

ส่วนผู้ที่อยู่บนเรือก่อนเกิดเหตุทราบชื่อต่อมา คือ นายชาญยุทธ วงษ์หอย อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 ม.1 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ ถูกกระแสน้ำวนพัดลอยออกมาไกลจากจุดเรือล่มประมาณ 400 เมตร ว่ายขึ้นมาทางตอนเหนือของจุดเกิดเหตุ และได้มีเรือลำใหญ่ขนาดความยาวประมาณ 15 เมตรของท่าเทียบเรือบ้านโพธิ์ ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ที่บริเวณด้านหน้าวัดบ้านโพธิ์ พื้นที่ ม. 1 ต.คลองบ้านโพธิ์ ซึ่งอยู่ด้านฝั่งตรงข้าม หลังจากเรือล่มไปแล้วประมาณกว่า 20 นาที

ขณะที่ นายพลากร วงษ์หอย อายุ 42 ปี ผู้เป็นหลานได้สูญหายไป ต่อมาจึงได้มีเรือหางยาวของชาวบ้านจำนวน 1 ลำ เรือท้องแบนของหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราจำนวน 2 ลำ และเรือเจ็ทสกี อีกจำนวน 2 ลำ ได้ออกมาช่วยกันตระเวนค้นหาในที่เกิดเหตุอยู่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง แต่ยังไม่พบตัว นอกจากนี้ยังมีทีมนักประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยฯ แห่งเดียวกัน จำนวน 6 คน ได้ลงงมค้นหาในบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงด้วยแต่ไม่พบตัว

ที่สุดได้ยุติการค้นหาเมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 17 พ.ค.65 หลังจากกระแสน้ำยังไหลเชี่ยวมากยิ่งขึ้นกว่าในช่วงหัวค่ำ โดยจะมีการจัดทีมออกค้นหาใหม่อีกครั้งในช่วงสายของวันนี้