รีเซต

AGEเล็งปรับเป็นโฮลดิ้ง ลั่นทุกธุรกิจเติบโตแกร่ง

AGEเล็งปรับเป็นโฮลดิ้ง ลั่นทุกธุรกิจเติบโตแกร่ง
ทันหุ้น
27 มกราคม 2568 ( 15:04 )
13

#AGE #ทันหุ้น – AGE ปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้ง ลั่นพร้อมกลับมาโตแกร่งทุกธุรกิจ รายได้หลักถ่านหินตั้งเป้ายอดขาย 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์จ่อเจรจาหาพันธมิตรรับงานนอกกลุ่มเพิ่ม ปูทางเข้าตลาดหุ้นปีหน้า ขณะที่ ABM ที่ถือหุ้น 50% เชื่อพ้นภาวะขาดทุน ด้านธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีกำไร มียอดขาย 100 ล้านบาทต่อเดือน วางเป้า 3 ปี รายได้เท่าธุรกิจถ่านหิน

 

นางสาวปณิตา  ควรสถาพร  รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายถ่านหินสะอาด และมีการลงทุนที่เกี่ยวเนื่อง เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในช่วงระหว่างกระบวนการในการผลักดันให้ AGE ขึ้นเป็นโฮลดิ้งคัมปะนี คาดจะดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2568 โดยโครงสร้างธุรกิจใหม่ของ AGE Group จะประกอบไปด้วย 1.กลุ่มธุรกิจถ่านหิน  2.สมาร์ทโลจิสติกส์  3.กลุ่มพลังงานยั่งยืน  4.ธุรกิจใหม่ Diversifued Investment ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ จำกัด

 

*รายได้โตทุกธุรกิจ

นายปองธรรม  แดนวังเดิม  หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร AGE เปิดเผยว่า ภาพธุรกิจในกลุ่มบริษัทปี 2568 จะเป็นการสร้างการเติบโตตามศักยภาพในทุกสายธุรกิจ ต่อยอดฐานรายได้ พร้อมกับการปรับโครงสร้างให้คล่องตัวเพื่อสร้างกำไรเพิ่มเติม บริหารจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ และฟื้นผลดำเนินงานให้กลับมาเป็นบวกได้ หลังจากงบการเงิน 9 เดือนปี 2567 พลิกขาดทุนสุทธิ 274.10 ล้านบาท

 

ปัจจุบัน AGE ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจถ่านหินสัดส่วนรายได้ 92.6%, ธุรกิจโลจิสติกส์สัดส่วนรายได้ 6.3%, ธุรกิจพลังงานยั่งยืนสัดส่วนรายได้ 0.9% และธุรกิจ Diversified Investments สัดส่วนรายได้ 0.2%

 

“สัดส่วนรายได้ถ่านหินที่มันเคยสูงอยู่แล้ว ปีนี้ก็ยอดขายน่าจะทรงตัวสูงต่อด้วยส่วนแบ่งการตลาดราว 50-60% ขณะที่ตัวอื่นๆ รายได้ยังต่ำกว่าเยอะ แต่การเติบโตจะมากกว่า โดยเฉพาะธุรกิจออโตโมทีฟที่เราเพิ่งเริ่มปีที่แล้ว ส่วนแผนการทำกำไรเราควบคุมธุรกิจที่เคยขาดทุนได้แล้ว และปีนี้เราก็จะเร่งคืนหนี้ตั้งเป้า 1,500 ล้านบาท ประหยัดดอกเบี้ยต่อปีได้ 100 ล้านบาทต่อปีซึ่งบริษัทกำลังไถ่ถอนหุ้นกู้คืนก่อนกำหนดบางส่วน พร้อมกับออกหุ้นกู้ใหม่”

 

*ยอดขายถ่านหิน 1.3 หมื่นล.

สำหรับถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำให้ค่าความร้อนที่สูงสะดวกในการใช้งาน และเป็นเชื้อเพลิงที่มีปริมาณสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับก๊าซธรรมชาติ หรือเชื้อเพลิงประเภทอื่นๆ ความต้องการใช้ในตลาดทั้งในและต่างประเทศยังมีอยู่ โดยปีนี้จะผลักดันยอดขายไปที่ 13,000 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งทำได้มากกว่า 12,000 ล้านบาท กลยุทธ์ระยะยาวบริษัทจะไม่เร่งการเติบโตของยอดขายธุรกิจนี้เนื่องจากมีส่วนแบ่งการตลาดที่สูงมากแล้ว หากมากเกินไปจะกระทบเรื่องความสมดุลสภาวะการแข่งขัน ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนแทนเพื่อให้อัตรากำไรดีขึ้น

 

ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ของ AGE โดยหลักจะให้บริการขนส่งถ่านหินเพื่อรองรับการดำเนินงานในกลุ่ม ปัจจุบันบริษัทมีรถยนต์บรรทุกจำนวนกว่า 100 คัน มีเรือขนส่ง 35 ลำ มีท่าเรือ มีคลังสินค้า มีการบริการภายในกลุ่มคิดเป็นรายได้ 60% ภายนอกกลุ่ม 40% ซึ่งบริษัทมีนโยบายเพิ่มรายได้ภายนอกกลุ่มให้เกิน 50%

 

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรองรับแผนการขยายตลาดนี้ หรืออาจเข้าไปศึกษาเพื่อซื้อกิจการขนส่งต่อยอดการให้บริการ และจะเพิ่มอัตรากำไรด้วยการทยอยเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์บรรทุกพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดคาดจะมีความชัดเจนในอีก 1-2 ไตรมาสนับจากนี้ นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์จะปรับโครงสร้างต่อเพื่อผลักดันแยกเข้าจะจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยในปีถัดไป เบื้องต้นประเมินมูลค่ากิจการจากสินทรัพย์อยู่ที่ราว 1,800-2,000 ล้านบาท

 

*บริษัทลูกหนุนรายได้

สำหรับ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ซึ่งดำเนินธุรกิจพลังงานยั่งยืนโดย AGE ถือหุ้น 50% ยอมรับว่าที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการจัดการต้นทุน อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับปรุงการบริหารไปแล้ว บริษัทจึงมั่นใจผลการดำเนินงานมีสัญญาณหยุดขาดทุน คาดหวังปีนี้กลับมาสร้างผลกำไร 100 ล้านบาท สะท้อนเป็นเงินปันผลเข้ามารับรู้ในงบตามสัดส่วนเป็นเงิน 20-50 ล้านบาทได้

 

ขณะที่ธุรกิจ Diversified Investments นั้น บริษัทในกลุ่มคือ บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ จำกัด จากเงินลงทุนเริ่มต้น 200-300 ล้านบาท ธุรกิจยังสร้างกำไรต่อเนื่อง ทั้งเช่าซื้อลีสซิ่ง ขายฝาก

 

อีกทั้งเมื่อเดือน ตุลาคม 2567 บริษัทได้เริ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ต่างๆ ซึ่งในเดือนถัดมายอดขายก็สร้างฐานได้ราว 100 ล้านบาทต่อเดือนแล้ว โดยมีกำไรด้วย ส่วนการลงทุนโดยรวมจำกัดงบไว้ 70 ล้านบาท โดยหลักจะเป็นการเปิดโชว์รูมปัจจุบันมี 5 โชว์รูมแล้ว และจะเพิ่มเป็น 6 โชว์รูมในปีสิ้นปีนี้

 

บริษัทตั้งเป้าหมายปีนี้รายได้ ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 2,000-4,000 ล้านบาท คาดหวังกำไรราว 3% ซึ่งตัวเลขประมาณการยอดขายที่ชัดเจนจะเห็นภาพชัดในช่วงหลังกลางปีนี้ ส่วนระยะ 3 ปีจากนี้คาดหวังให้สัดส่วนรายได้ขึ้นมาเทียบเท่าธุรกิจถ่านหิน

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง