รีเซต

แห่งแรกในสหรัฐฯ โรงงานผลิตเครื่องบินโดยสารที่เร็วที่สุดในโลก

แห่งแรกในสหรัฐฯ โรงงานผลิตเครื่องบินโดยสารที่เร็วที่สุดในโลก
TNN ช่อง16
28 มิถุนายน 2567 ( 01:59 )
40
แห่งแรกในสหรัฐฯ โรงงานผลิตเครื่องบินโดยสารที่เร็วที่สุดในโลก

บูม ซูเปอร์โซนิก (Boom Supersonic) บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการบินสัญชาติอเมริกัน ที่วางแผนจะสร้างเครื่องบินโดยสารที่เร็วที่สุดในโลก ล่าสุด เพิ่งก่อสร้างโรงงานผลิตของตัวเองเสร็จสิ้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา โดยโรงงานที่ว่านี้ชื่อ โอเวอร์เชอร์ ซูเปอร์แฟกทอรี (Overture Superfactory) ถือเป็นโรงงานผลิตเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา


โรงงานโอเวอร์เชอร์แฟกทอรีตั้งอยู่ที่สนามบินนานาชาติพีดมอนท์ ไทรแอด (Piedmont Triad) ในเมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 16,700 ตารางเมตร หรือก็คือใหญ่กว่าสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 2 สนามเรียงต่อกันในแนวนอน ต้นทุนการสร้างประมาณโรงงานนี้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,700 ล้านบาท มีกำลังการผลิตเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงได้ 33 ลำต่อปี คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 221,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกนำไปจัดส่งให้กับสายการบินต่าง ๆ เช่น ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) อเมริกันแอร์ไลน์ (American Airlines) และเจแปนแอร์ไน์ (Japan Airlines) อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีแผนการขยายโรงงานผลิตเพิ่มเพื่อให้ผลิตเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงได้ 66 ลำต่อปีอีกด้วย


เบลค สกอลล์ (Blake Scholl) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบูม ซูเปอร์โซนิกกล่าวว่าการสร้างโรงงานโอเวอร์เชอร์ แฟกทอรีนี้ถือเป็นหลักชัยในการสร้างความมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำการผลิตด้านการบินและอวกาศอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็เชื่อว่า การบินความเร็วเหนือเสียงจะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางทางอากาศได้ในอนาคต


โรงงานแห่งนี้ ควบคุมงานโดยบริษัทก่อสร้างสัญชาติสหรัฐฯ อย่างบีแอนด์เค บิลดิ้ง กรุ๊ป (BE&K Building Group) ออกแบบโดยบริษัทด้านสถาปัตยกรรมจากสหรัฐฯ อย่างบีอาร์พีเอช (BRPH) และจะได้รับการรับรองลีด (LEED หรือ Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นระบบการรับรองอาคารสีเขียว คาดว่าโรงงานนี้จะประหยัดพลังงานได้มากกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตที่คล้ายคลึงกัน


ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของรัฐนอร์ธแคโรไลนา ประเมินว่าโรงงานนี้จะทำให้เศรษฐกิจของรัฐเติบโตอย่างน้อย 3.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.20 ล้านล้านบาทในระยะเวลา 20 ปี และจะเพิ่มงานโดยตรงมากกว่า 2,400 ตำแหน่ง


สำหรับเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงที่บริษัทตั้งเป้าที่จะผลิตชื่อโอเวอร์เชอร์ (Overture) ซึ่งสามารถบินได้เร็วกว่าเครื่องบินพาณิชย์ในปัจจุบัน 2 เท่า โดยมีความเร็ว 1.7 มัค หรือก็คือประมาณ 2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 80 ที่นั่ง พร้อมระยะการบินไกลสุด 4,250 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 7,870 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมาพร้อมความโดดเด่นด้านพลังงาน โดยได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน หรือ SAF - Sustainable Aviation Fuel ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจสายการบินก้าวเข้าสู่ยุคความยั่งยืนได้ด้วย


บริษัทเปิดเผยว่า ตอนนี้มีหนังสือสั่งซื้อเครื่องบินโอเวอร์เชอร์ล่วงหน้าแล้วทั้งหมด 130 ลำ โดยการเปิดตัวต้นแบบโอเวอร์เชอร์ มีกำหนดเปิดตัวในปี 2026 เที่ยวบินแรกมีกำหนดในปี 2027 และการรับรองเครื่องบินคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2029

ที่มาข้อมูล PRnewswire, Flightplan, TNNThailand

ที่มารูปภาพ BoomSupersonic

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง