เงินเฟ้อไทยติดลบต่อเนื่อง 7 เดือน "พาณิชย์" ยันไม่ใช่ "เงินฝืด" ชี้ผลมาตรการลดค่าครองชีพ

"พาณิชย์" เผย เงินเฟ้อไทยเดือน ตุลาคม 2568 ติดลบ 0.76% จากมาตรการลดค่าครองชีพ-ราคาสินค้ากลุ่มพลังงาน แนวโน้มเดือนพฤศจิกายน ยังปรับลดลงต่อ ยืนยันยังไม่มีสัญญาณ "เงินฝืด"
นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินเฟ้อเดือน ตุลาคม 2568 ติดลบ 0.76 % ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ปัจจัยหลักมาจากมาตรการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนของภาครัฐ ผ่านโครงการ Quick Big Win และสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ มีสินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด จากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งของใช้ส่วนบุคคล จากการส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก สูงขึ้น 0.61 % ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนกันยายน 2568 ที่สูงขึ้น 0.65 % รวมเงินเฟ้อ 10 เดือนของปี 2568 (มกราคม-ตุลาคม) ลดลง 0.09%
นายนันทพงษ์ ระบุว่า การที่เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 7 เดือน ยังไม่มีสัญญาณเงินฝืด เพราะสาเหตุหลักที่ฉุดเงินเฟ้อมาจากเรื่องพลังงานที่ลดลง เงินบาทแข็งค่า ก็ดึงให้ราคาพลังงานถูกลงอีก และยังมีมาตรการภาครัฐที่ดูแลในเรื่องพลังงาน ค่าไฟฟ้า รวมถึงอาหารสดที่ลดลง แต่เมื่อดูในด้านความต้องการหรือดีมานด์ไซส์ยังขยายตัว ไม่มีปัญหา โดยเงินเฟ้อไทยเคยติดลบมากสุด 12 เดือน ช่วงเดือน มีนาคม 2563 - มีนาคม 2564
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนกันยายน 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลง 0.72 % โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 6 จาก 140 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำสุดใน กลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศที่ประกาศตัวเลข เช่น บรูไน สิงคโปร์ ติมอร์-เลสเต มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว
"เงินเฟ้อ" ตุลาคม 2568 สินค้าในประเทศหลายรายการราคาแพงขึ้น
รายละเอียดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.76% (YoY) ในเดือนตุลาคม 2568 มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้
หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ปรับตัวลดลง 1.10 % (YoY) จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มพลังงาน (ค่ากระแสไฟฟ้า แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ของใช้ส่วนบุคคล (น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า สบู่ถูตัว แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว แป้งผัดหน้า) รถยนต์ ค่าโดยสารเครื่องบิน เสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษ สตรี และเด็ก เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยารีดผ้า น้ำยาถูพื้น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว/น้ำยาซักผ้าขาว)
มีสินค้าสำคัญปรับราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าทัศนาจรต่างประเทศ ค่าบริการขนขยะ ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และอาหารสัตว์เลี้ยง
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.17% (YoY) จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มผักสด (ต้นหอม ผักกาดขาว พริกสด มะนาว กะหล่ำปลี ผักชี ขิง มะเขือ) กลุ่มผลไม้สด (องุ่น มะม่วง กล้วยน้ำว้า ส้มเขียวหวาน) ไข่ไก่ เนื้อสุกร ไก่สด และข้าวสารเหนียว
สินค้าหลายรายการราคาสูงขึ้น อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว) ข้าวสารเจ้า กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ (ปลาทูปลาช่อน) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) เครื่องดื่มรสช็อกโกแลต) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช กะทิสำเร็จรูป น้ำพริกแกง) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม)
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้น 0.61% (YoY) ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนกันยายน 2568 ที่สูงขึ้น 0.65% (YoY)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนตุลาคม 2568 เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2568 ลดลง 0.11% (MoM) ตามการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 0.14% (MoM) จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง (แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายบรรเทาภาระค่าครองชีพด้านพลังงานผ่านโครงการ Quick Big Win ค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษ จากการยกเว้นค่าผ่านทางฯ ในวันหยุดราชการประจำปีเพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ของใช้ส่วนบุคคลบางชนิด (น้ำยาระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า ผ้าอนามัย) และเสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษ เสื้อยกทรง เสื้อยืดเด็ก) จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ
สินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ค่าบริการขนขยะ น้ำยาถูพื้น น้ำยารีดผ้า น้ำยาล้างห้องน้ำ) และของใช้ส่วนบุคคลบางชนิด (แชมพู กระดาษชำระ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว)
หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง 0.05% (MoM) จากสินค้าสำคัญที่ราคาปรับลดลง อาทิ เนื้อสัตว์ (เนื้อสุกร ไก่สด) ไข่ไก่ และผลไม้สด (ส้มเขียวหวาน องุ่น กล้วยหอม) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น อาหารโทรสั่ง (Delivery) จากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ ขณะที่มีสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ ข้าวสารเจ้า และผักสด (ต้นหอม ผักคะน้า ผักชี กะหล่ำปลี มะนาว)
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 10 เดือน (มกราคม – ตุลาคม) ของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ลดลง 0.09% (AoA)
"พาณิชย์" คาด เงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 2568 ยังคงลดลงต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤศจิกายน 2568 คาดว่าจะยังคงลดลง โดยมีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่
1. ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายบรรเทาภาระค่าครองชีพผ่านโครงการ Quick Big Win ส่งผลให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (OFFO) ปรับลดอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนฯ และทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลดลงมาอยู่ที่ 30.94 บาทต่อลิตร
2. ภาครัฐดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ การปรับลดค่า Ft งวดเดือนกันยายน – ธันวาคม 2568 มาอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่ากระแสไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.94 บาทต่อหน่วย
3.ราคาผักสดและผลไม้สดต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากผลผลิตที่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก รวมทั้งฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับสูง และ (4) ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับลดราคาห้องพัก เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐ (ณ วันที่ 21 ต.ค. 2568) โดยเฉพาะมาตรการหักลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในประเทศสูงสุด 20,000 บาท
สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวมีแนวโน้มทำให้ค่าโดยสารเครื่องบินปรับตัวสูงขึ้น และ ราคาสินค้าเกษตรและเครื่องประกอบอาหารบางชนิดมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น กะทิสำเร็จรูป กาแฟสำเร็จรูป เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น ดังนั้นด้วยปัจจัยดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 อยู่ที่ 0.0%
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
