THREL กำไรครึ่งแรก 110 ล. บอร์ดเคาะปันผล 0.08 บาท

THRELงบสวยมีปันผลระหว่างกาล 0.08 บาท โชว์ผลงานครึ่งปีแรกแกร่ง กำไร 110 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตสวนตลาดทะลุ 1,400 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเดินหน้าผนึกพันธมิตรลุยต่างประเทศเต็มรูปแบบเล็งขยายตลาดอินโดนีเซีย

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.08 บาทต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินจำนวน 48 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ หลังผลงานครึ่งแรกปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) ออกมาแข็งแกร่ง กำไรสุทธิพุ่งเกือบ 70% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 110 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยต่อรับ 1,483 ล้านบาท เติบโตราว 2% สวนกระแสภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่ยังคงชะลอตัว ตามปริมาณงานประกันชีวิตแบบร่วมพัฒนา (Non-Conventional) และงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional) ที่มีแนวโน้มขยายตัวดี

โดยค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,297 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน จากค่าสินไหมทดแทน (เคลม) ที่เพิ่มขึ้นราว 9% อยู่ที่ 928 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับ ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้น 9% อยู่ที่ 303 ล้านบาท โดยยังมุ่งเน้นประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงาน เพื่อควบคุมอัตราค่าสินไหมทดแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ลดลงต่อเนื่องเหลือ 93%

เปิดตลาดอินโดนีเซีย

นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังจำเป็นต้องจับตาและประเมินสถานการณ์ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตภายในประเทศอย่างใกล้ชิด จากปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบรอบด้าน เบื้องต้นบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงานอย่างต่อเนื่อง

โดยแผนครึ่งหลังของปี 2565 บริษัทเตรียมเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศเต็มรูปแบบ ล่าสุดได้เจรจาพันธมิตรขยายงานในประเทศอินโดนีเซีย เพิ่มเติมจากก่อนหน้าที่ได้สัญญาใหม่จากประเทศกัมพูชา เบื้องต้นคาดได้งานและทยอยรับรู้รายได้จากไต้หวันภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่แผนธุรกิจในประเทศ เล็งผลักดันโปรดักส์ใหม่ ที่ได้ร่วมพัฒนากับ “Pacific Life Re” ออกสู่ตลาด เพื่อยอดต่อ New S-Curve หนุนการเติบโตแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง

บริษัทฯ มีรายได้จากการลงทุนสุทธิรอบครึ่งปีแรกของปี 2565 จานวน 38 ล้านบาท ลดลง 6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกองทุนรวมตราสารทุนที่จ่ายเงินปันผลลดลง และกาไรจากการขายหลักทรัพย์ลดลงจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

กำไรไตรมาส2โตต่อเนื่อง

ทั้งนี้งบการเงินไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิตามงบการเงินที่แสดงเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย สำหรับงวดไตรมาส 2/2565 จำนวน 40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุจาก กําไรจากการรับประกันภัย จำนวน 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ประกอบด้วย บริษัทมีเบี้ยประกันภัยต่อรับรวม 813 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 157 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16% โดยเป็นเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิ 700 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 13 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2% เป็นผลจากการปรับลดสัดส่วนงานประกันสุขภาพบางสัญญา

ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวม 675 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 21 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3% ซึ่งเกิดจาก ตี่งสำรองประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะยาว ลดลงจากปีก่อน 13 ล้านบาท เป็นผลมาจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทมี ค่าสินไหมทดแทนรวม ลดลง 39 ล้านบาท เกิดจากปีก่อนมีค่าสินไหมทดแทนรายใหญ่ (MajorLoss) จากสัญญาประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ 40 ล้านบาท ส่งผลให้มี combined ratio ของไตรมาส 2/2565 เท่ากับ 95.6% ลดลงจากปีก่อน 0.6 percentage point

รายได้จากการลงทุนสุทธิ 22 ล้านบาท ลดลง 4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกาไรจากการขายหลักทรัพย์ลดลงจากภาวะตลาดหลักทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา