ธ.โลกปล่อยกู้ไทย 4.5 พันล.สร้างสะพาน”เชื่อมเกาะลันตา-ข้ามทะเลสาบสงขลา”

#ทันหุ้น ธ.โลกปล่อยกู้ไทย 4.5 พันล.สร้างสะพาน”เชื่อมเกาะลันตา-ข้ามทะเลสาบสงขลา”พร้อมให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าสำหรับการสนับสนุนกิจกรรมภายใต้แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทยในการประชุมเจรจาเงินกู้ (Loan Agreement) สำหรับโครงการสะพานเชื่อมเกาะลันตา ต.เกาะกลาง-ต.ลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา-อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท (ทช.) และเจรจาร่างสัญญาข้อตกลงรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่า (Grant Agreement) สำหรับการสนับสนุนกิจกรรมภายใต้แผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีทะเลสาบสงขลา (พ.ศ. 2567-2576) ร่วมกับผู้แทนธนาคารโลก (The World Bank)เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงนามในสัญญาเงินกู้และข้อตกลงรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าต่อไป
การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนฝ่ายไทยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมทางหลวงชนบท กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมประมง สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าร่วมเป็นคณะเจรจา
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา มีวงเงินรวม 4,700 ล้านบาทและโครงการสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา วงเงิน 1,800 ล้านบาท มีสัดส่วนการใช้เงินกู้ต่องบประมาณเท่ากับ 70 : 30 รวมวงเงินในสัญญาเงินกู้ทั้งสิ้น 4,550 ลบ
ทั้งนี้ การก่อสร้างสะพาน ข้ามทะเลสาบสงขลา จะช่วยลดระยะเวลาเดินทางได้ 80 กม. หรือลดระยะเวลาการเดินทาง ได้ 2 ชั่วโมง และส่งเสริมการท่องเที่ยวการค้าและการขนส่งโลจิสติกส์ สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมเกาะลันตา จะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ล่าช้า เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมการขนส่งและช่วยยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของประชาชน
สำหรับความช่วยเหลือจากธนาคารโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนอนุรักษ์โลมาอิรวดีอย่างยั่งยืน เช่น ช่วยจัดทำทุ่นแนวเขต จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังเพื่อคุ้มครองโลมาอิรวดี การเฝ้าระวังเชิงคุณภาพทางน้ำ เพื่อลดภัยคุกคามต่อโลมาอิรวดี และช่วยเพิ่มจำนวนประชากรโลมาอิรวดีผ่านการอนุรักษ์และการฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพ และฟื้นฟูความสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลา
“การเจรจาเงินกู้ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับการจัดสรรเงินเพื่อการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการนับเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนว่าประเทศไทยสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพได้อย่างสมดุล”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
