ตรวจยึดขบวนการมอดไม้ ลอบตัดเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งลำน้ำแควน้อย

วันที่ 19 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพล ประเทือง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.2 วัดโบสถ์ นายธีรพล กาญจนโกมล หัวหน้าสายตรวจสำนักอนุรักษ์ฯ 11  นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักอนุรักษ์ที่ 11  พ.ต.ท.ชัย ถิ่นน้ำใส สารวัตรสืบสวนภูธรจังหวัดพิษณุโลก พร้อม จนท.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อยเขาประดู่ สนธิกำลังกว่า 50 นาย ลงพื้นที่หมู่ 11 บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ หลังรับแจ้งว่า มีผู้ลักลอบตัดไม้ จึงไปตรวจสอบ  ที่เกิดเหตุเป็นที่แปลงไร่สับปะรด อยู่เชิงเขา อยู่บริเวณปลายเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน พบไม้แดง ถูกตัดโค่น วัดรัศมีความโต ประมาณ 3.6 เมตร หรือประมาณ 2 คนโอบ ซึ่งถูกตัดไม้ประมาณ 3-4 ท่อน แต่คงเหลือไม้ส่วนปลายและโคนต้นเหลืออยู่ แต่ท่อนกลางหายไป 

ต่อมา จนท.ป่าไม้และพิทักษ์ป่าตรวจสอบร่องรอย ก็พบว่า มีไม้ถูกชักลากไปบริเวณริมน้ำและบางส่วนซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำ บริเวณปลายลำห้วยของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เพื่อรอการขนย้าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำน้ำลงไปคว้านหาและชักลากขึ้นมาตรวจยึดต่อไป โดยใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1ชั่วโมง เนื่องจากไม้ท่อนไม้แดงที่จมน้ำและมีหนักมาก ทว่าแรงคนและรถสามารถลากไม้จำนวน 1 ท่อนขึ้นจากน้ำจนสำเร็จ รวมไม้แดงทั้งหมด 4 ท่อน ปริมาตรทั้งหมด เป็น 5.19 ลูกบาศก์เมตร 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจุดทางขึ้นของไม้ท่อนต่อไป แต่กลับพบว่า ยังมีการลักลอบตัดไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดตอไม้ขนาดใหญ่ข้างตน ประมาณ 2 กิโลเมตร พบไม้ ประดู่ ถูกโค่นอีกจำนวนมาก ตรวจยึดจำนวน 3 ท่อน( ปริมาตร 1.3 ลูกบาศ์กเมตร) และไม้รัง จำนวน 2 ท่อน (0.8 ลูกบาศ์กเมตร) 

ซึ่งพื้นที่ตรวจพบไม้ทั้ง 2 จุด อยู่ในป่าด้านทิศตะวันตกบ้านแก่งเจ็ดแคว ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งลำน้ำแควน้อย จากนั้นได้ทำบันทึกคดี ลงเวลา 20.45 น.ของวันที่ 18 สิงหาคม 63 คดีอาญาเลขที่  292/2563 ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ เพื่อติดตาม หาผู้กระทำความผิด ในข้อหาตาม พรบ.ป่าไม้ 2485 มาตรา 11 ฐานทำไม้โดยไมได้รับอนุญาต และมาตรา 69 มีไม้ไว้ในครอบครอง มาตรา 54 ประกอบมาตรา 55 แผ้วถางและทำลายทรัพยากรป่าไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ฐาน ทำไม้ ในเขตป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ชักลากไม้ของกลาง จำนวน 9 ท่อน ปริมาตร 7.44 ลูกบาศ์กเมตรที่ได้ตรวจยึดนำไปเก็บรักษาที่หน่วยพล.2 วัดโบสถ์ มีชาวบ้านที่เดินทางมาดูและได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้และจนท.พิทักษ์ป่า ว่า ขบวนการมอดไม้ กำลังมีการหากว้านซื้อไม้ชิงชัง ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามที่มีราคาแพง รองๆหรือทดแทน”ไม้พยุง”ซึ่งพบว่า ไม้ชิงชังขนาดใหญ่ยังมีอยู่ในเขตป่าสงวนฯและเขตห้ามล่าฯ ไม่ต่ำกว่า 4-5 ต้น นอกจากนี้ขบวนการมอดไม้ยังต้องการ“ไม้ประดู่”และ”ไม้แดง”ในป่าอีก  ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังอยู่เช่นกัน