จุกอก! พยาบาลร่ำไห้ถูกส่งกักตัว เซ่นผู้ป่วยโควิดปกปิดข้อมูล
วันนี้ (25 เม.ย.64) ในโลกโซเซียลได้เผยแพร่คลิป TikTok เป็นเหตุการณ์เมื่อกลางดึก 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่กลุ่มเจ้าหน้าที่พยาบาลของ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หลายสิบคนเดินร้องไห้ปาดน้ำตาถือกระเป๋าส่วนตัวเดินเข้าไปกักตัว
นอกจากกลุ่มพยาบาลดังกล่าวแล้วยังมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย อีกหลายคนที่ต้องกักตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือรับส่งผู้ป่วยเป็นไข้จากบ้านพักส่ง รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ขณะพยาบาลกลุ่มดังกล่าวเข้าเวรและทำการตรวจรักษา
ต่อมาทางโรงพยาบาลสอบสวนพบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยอยู่ระหว่างกักตัว เนื่องจากเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงและมีไข้สูงมา 3 วันแล้ว แต่ได้ปกปิดข้อมูล กระทั่งผลตรวจผู้ป่วยรายดังกล่าวออกมาเมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย. พบว่าติดเชื้อโควิด ทำให้เจ้าหน้าที่พยาบาลเวรดังกล่าวต้องถูกกักตัวทันทีตามที่ปรากฎตามคลิป เพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่ไปรับตัวด้วย
ขณะที่ นพ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอร้องผู้ป่วยหรือญาติทุกคน ว่าไม่ควรจะปกปิดข้อมูลของผู้ป่วย ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบกับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งนี้คงจะไม่ไปฟ้องร้องผู้ป่วย เนื่องจากในทางการแพทย์ไม่ควรเข้าไปทำให้ทุกข์มากขึ้นไปอีก ดังนั้นสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ทำได้ในขณะนี้คือการเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง โดยการยกระดับการป้องกัน ด้วยการสันนิษฐานว่าคนป่วยติดเชื้อไว้ก่อน
ขณะที่ ‘ศูนย์นเรนทรนครศรีธรรมราช- ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669’ ออกมาโพสต์ว่าผลของการที่ปกปิดข้อมูล ทั้งที่ทราบว่าตนเองเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง ทำให้เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ต้องโดนกักตัวหลายท่าน หน่วยงานขาดบุคลากร ซึ่งปกติก็ขาดอยู่แล้ว หลายคนมีลูกรออยู่ที่บ้าน บางคนทำงานตั้งแต่สงกรานต์ยังไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน ทุกคนมีครอบครัวรออยู่ที่บ้าน แต่เมื่อวานพวกเขาไม่ได้กลับบ้าน ต้องเดินน้ำตาตกเข้าไปกักตัวในโรงพยาบาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม จากสิ่งที่เกิดขึ้นเนื่องจากที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยปกปิดประวัติ
พร้อมระบุว่า ขอความกรุณาเห็นใจเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย ที่เขาเข้าไปช่วยเหลือคุณ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าปกปิดประวัติ ให้ความร่วมมือในการสอบสวนโรค รพ.สนาม สถานที่รองรับผู้ป่วยสร้างเพิ่มได้ใน 1 วัน แต่บุคลากรทางการแพทย์ถ้าจะเพิ่มก็ต้องรอเด็กจบใหม่อีก 1 ปี ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่ออกไป มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก