เปิดตัว Midjourney V7 AI สร้างภาพล้ำสมัย เจาะลึกฟีเจอร์ใหม่ พร้อมวิธีใช้งาน
Midjourney หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการสร้างภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เปิดตัวโมเดล AI รุ่นใหม่ล่าสุดชื่อ "V7" เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2024 โดยเริ่มเปิดให้ใช้งานในรูปแบบอัลฟ่า (Alpha) โมเดลนี้นับเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี และเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ OpenAI เปิดตัวเครื่องมือสร้างภาพใน ChatGPT ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากความสามารถในการสร้างภาพในสไตล์ Ghibli สตูดิโอแอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แม้ว่า V7 จะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างภาพในสไตล์ Ghibli โดยตรง แต่ก็สามารถสร้างผลงานภาพที่มีความสวยงามและน่าประทับใจได้อย่างมาก ความพิเศษของ V7 อยู่ที่ระบบ "โปรไฟล์ส่วนตัว" ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่เปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานจะต้องให้คะแนนภาพประมาณ 200 ภาพเพื่อช่วยให้ระบบเรียนรู้และปรับแต่งผลลัพธ์ให้สอดคล้องกับความชอบของแต่ละบุคคล
หลังจากสร้างโปรไฟล์ส่วนตัวเสร็จสิ้น ผู้ใช้สามารถเปิดหรือปิดการใช้งาน V7 ได้ทั้งบนเว็บไซต์ของ Midjourney และบนแชทบอทใน Discord ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักของการใช้งาน โดยสามารถเลือกใช้งานโมเดลต่าง ๆ ได้จากเมนูด้านข้างที่ชื่อว่า "เวอร์ชัน"
เดวิด โฮลซ์ (David Holz) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Midjourney เปิดเผยว่า V7 มีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากโมเดลก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง พร้อมระบุว่าโมเดลนี้มีความสามารถในการตีความคำสั่งข้อความได้ดีขึ้น ให้คุณภาพของภาพสูงขึ้น และสามารถรักษาความสอดคล้องของรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
V7 มีให้เลือกใช้งานในสองโหมด ได้แก่ "Turbo" ซึ่งให้ผลลัพธ์รวดเร็วแต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และ "Relax" สำหรับการใช้งานทั่วไป นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ "Draft Mode" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้สามารถเรนเดอร์ภาพได้เร็วกว่าโหมดมาตรฐานถึง 10 เท่า แม้ว่าคุณภาพของภาพร่างจะต่ำกว่าภาพที่ได้จากโหมดปกติ แต่ผู้ใช้สามารถปรับปรุงและเรนเดอร์ใหม่ได้ง่ายดายเพียงคลิกเดียว
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ V7 ยังไม่รองรับฟีเจอร์มาตรฐานบางอย่างของ Midjourney เช่น การขยายขนาดภาพ (Upscaling) และการปรับพื้นผิวใหม่ (Vary Region) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเพิ่มเข้ามาในอนาคตอันใกล้
เดวิด โฮลซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า V7 เป็น “โมเดลใหม่ทั้งหมดที่มีจุดแข็งเฉพาะตัว และอาจยังมีจุดอ่อนบางประการ” พร้อมเชิญชวนผู้ใช้งานให้ทดลองใช้และส่งข้อเสนอแนะ เพื่อร่วมกันพัฒนาโมเดลให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Midjourney กำลังเผชิญกับคดีความหลายคดีที่กล่าวหาว่าบริษัทละเมิดสิทธิ์ของศิลปินนับล้านราย จากการใช้ภาพที่รวบรวมจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อนำไปฝึกระบบ AI
สำหรับ Midjourney ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 โดย เดวิด โฮลซ์ (David Holz) ผู้ร่วมก่อตั้ง Leap Motion บริษัทอุปกรณ์ต่อพ่วงด้านการเคลื่อนไหว โดยบริษัทไม่ได้ระดมทุนจากนักลงทุนภายนอก และในปี 2023 คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,800 ล้านบาท ล่าสุด Midjourney ยังได้ประกาศจัดตั้งทีมด้านฮาร์ดแวร์ เพื่อดำเนินโครงการใหม่ ๆ และกำลังพัฒนาโมเดลสำหรับสร้างวิดีโอและวัตถุ 3 มิติในอนาคต