MVP รัฐบาลใหม่หนุนดิจิทัล จับตาครึ่งปีหลังอีเวนต์แน่น

“โอภาส  เฉิดพันธุ์” บิ๊กบอส MVP เชื่อรัฐบาลใหม่หนุนธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลบูม พร้อมรับอานิสงส์เต็มที่ ล่าสุดเดินหน้าขุดเหมืองบิทคอยน์ลาวร่วมกับพาร์ตเนอร์ 470 เครื่อง ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังอีเว้นต์คึกคัก จ่อจัดงานเพียบ มั่นใจดันผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เปิดเผยว่า คาดหลังจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่สำเร็จ ธุรกิจดิจิทัลจะกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง เพราะทุกนโยบายต่างสนับสนุนธุรกิจดิจิทัล และให้ความสำคัญอย่างมาก อีกทั้ง MVP ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจดิจิทัล และมีกำไร ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจขุดเหรียญบิทคอยน์ที่ประเทศสปป.ลาว ร่วมกับพาร์ตเนอร์ โดยมีเครื่องจำนวน 470 เครื่อง และได้เหรียญแล้วประมาณ 8 เหรียญ (ส่วนของ MVP 3-4 เหรียญ)

** ดิจิทัลแอสเซท

“จากภาพธุรกิจดิจิทัลแอสเซทจะเห็นว่าหลายบริษัทยกเลิกธุรกิจไปแล้ว เพราะส่วนหนึ่งต้นทุนค่าไฟสูง และเหรียญปรับตัวลดลง แต่เราไปทำธุรกิจขุดบิทคอยน์ที่ประเทศสปป.ลาวร่วมกับพาร์ตเนอร์ ต้นทุนค่าไฟถูก ทำให้ธุรกิจขุดเหรียญยังมีกำไร และสิ่งที่น่าจับตาดูต่อจากนี้คือหากรัฐบาลใหม่จัดตั้งสำเร็จไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม คาดได้รับอานิสงส์เพราะทุกพรรคให้ความสำคัญและมีนโยบายการสนับสนุนดิจิทัลแอสเซท” นายโอภาส กล่าว

ขณะที่ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2566 อาจจะไม่ดีมาก เพราะเป็นช่วงโลว์ซีซันหน้าฝน ทำให้การจัดอีเวนต์กลางแจ้งอาจจะทำได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจอีเวนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4/2566 เพราะเป็นไฮซีซันธุรกิจอีเวนต์ โดยเฉพาะอีเวนต์ภาครัฐที่เริ่มจัดงานมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นงานที่เลื่อนมาจากปีก่อน และยังมีงานใหม่ที่จัดต่อเนื่องในปีนี้

ส่วนธุรกิจที่อิงท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวชัด หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว บริษัทยังเตรียมจะเพิ่มอีก 150 คัน จากปัจจุบันมีรถบริการจำนวน 160 คัน หรือเพิ่มรถบริการแตะ 310 คัน บริษัทจะเริ่มเพิ่มรถใหนช่วงไตรมาส 3/2566 และจะเริ่มให้บริการรถบ้านใหม่ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4/2566 โดยจะใช้เงินราว 150 ล้านบาท สำหรับเงินลงทุนจะมาจากเงินออกหุ้นกู้ หลังบริษัทขออนุมัติการและออกและเสนอขายหุ้นกู้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ รวมถึงการลงทุนในด้านต่างๆ ในอนาคต

** ผลงานดีต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามบริษัทมองทิศทางผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีต่อเนื่องจากปี 2565 จากการจัดกิจกรรม และงานอีเวนต์เป็นปกติ โดยต้นปี 2566 บริษัทจัดงานไปแล้ว อาทิ งานวิ่งมาราธอน เป็นต้น และคาดว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อนึ่ง 3 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้แล้ว 98.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 4.78 ล้านบาท

ล่าสุด บริษัทได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้การจัดงานหรืออีเวนต์ ในประเทศ ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral)

บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด เป็นผู้ให้บริการด้านคาร์บอนเครดิตครบวงจร ให้คำปรึกษาทั้งในส่วนของผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นผู้พัฒนาโครงการและจัดหาคาร์บอน เครดิต ทั้งจากพลังงานสะอาดและพลังงานอื่นๆ ในการมีส่วนร่วมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน จึงเกิดความร่วมมือกันเพื่อความแข็งแกร่งหรือจุดแข็งทางธุรกิจ

ส่วนบริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MVP เป็นผู้นำและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการจัดงานอีเวนต์ ที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมด้วยประสบการณ์การจัดงานระดับมืออาชีพ เช่น Thailand Mobile Expo และ Thailand Crypto Expo 2022 เป็นต้น