"อาชีพทำเงิน"ปลูก"ผักเหลียง"ในสวนยาง เก็บขายได้ทุกวัน | เรื่องดีดีทั่วไทย | 11-09-68

พามายังสวนของนางนิตยาพรหมรักษ์เกษตรกรบ้านกงตาก ต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ปลูกต้นยางพาราเป็นอาชีพหลักแต่ต่อมาได้ปรับมาทำสวนเกษตรผสมผสาน ปลูกผลไม้และผักนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน ลองกอง มังคุด มะไฟป่า กล้วยและต้นเหลียง ปลูกรวมกันทั้งหมด
แต่ที่ให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจก็คือ "ต้นเหลียง" ที่ผลิยอดอ่อนให้เก็บขายได้เกือบทุกวัน
นางนิตยาเจ้าของสวน บอกว่าเดิมทีได้ไปขุด ต้นเหรียงหรือใบเหรียงมาจากในป่ามาประมาณ 20 ต้น แล้วนำมาปลูกและขายได้จึงจุดประกายให้ไปซื้อต้นพันธุ์มาปลูกเพิ่มในร่องสวนยางพารา บนเนื้อที่ 6 ไร่ กว่า 400 ต้น
เมื่อเข้าสู่ช่วงที่ยางผลัดใบแต่ใบเหรียง ก็จะเก็บเอายอดใบเหลียงมาขายได้ ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท หากเป็นมัด จะขายมัดละ 10 บาท ซึ่งในแต่ละวันทำให้มีรายได้จากการขายใบเหรียงวันละ 300-500 บาทจะมีคนในหมู่บ้าน และพ่อค้าแม่ค้า มารับซื้อถึงสวน
ส่วนหน้าสวนก็ยังมีร้านขายผักตั้งอยู่จะมีผักและผลไม้ วางไว้ พร้อมติดป้านราคากำกับแล้วมีป้ายเขียนไว้ว่า "เงินค่าของใส่ในตะกร้าไม้ไผ่"
ซึ่งนางนิตยา บอกว่าหากใครไม่มีเงิน จะไม่ได้ให้ก็ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคุณแม่ที่เสียชีวิต จะเก็บเอาเฉพาะเงินที่ลูกค้าใส่ไว้ในตะกร้าเท่านั้น และหากใครมีงานบุญหรืองานศพนางนิตยาก็จะนำผักเหรียงในสวนไปช่วยงานฟรี
คุณนิตยา ยังบอกอีกว่าทำทุกอย่างที่ตัวเองที่สบายใจเรื่องเงินมาเป็นลำดับที่ 2 ส่วนการทำสวนในแต่ละวันจะยึดตามคำสอนของพ่อ การได้ให้มีค่ามากกว่าขาย เมื่อให้แล้วมีความสุข ก็จะช่วยให้สบายใจ
ด้าน "นายพูลศักดิ์โสภณปทุมรักษ์" นายอำเภอกาญจนดิษฐ์ได้ลงพื้นที่มายังสวนของนางนิตยาพร้อมกล่าวชื่นชมว่าเกษตรกรรายนี้ถือเป็นเกษตรกรต้นแบบของการจัดการสวนยางที่ดี ของตำบลช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ ที่มีการปลูกพืชแบบผสมผสาน อีกทั้งยังเป็นแปลงเรียนรู้ให้กับเกษตรกรรายอื่นๆได้เข้ามาศึกษาหาความรู้อีกด้วย
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
