คอลัมน์ Taste Test : ซัมซุง ซี ฟลิป หรูหราในสไตล์หน้าจอพับได้

เพิ่งได้มาทดสอบเล่น สำหรับสมาร์ทโฟนสุดล้ำ ซัมซุง กาแล็กซี ซี ฟลิป (Galaxy Z Flip) ที่โดดเด่นด้วยการที่หน้าจอสามารถ “พับได้” ที่ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ ซี ฟลิป เป็นเครื่องที่น่าสนใจอีกรุ่นในตลาดไฮเอนด์
ได้เห็นบรรดานักแสดงจากซีรีส์เกาหลีใช้กันแล้ว ก็เลยต้องหยิบมาบอกเล่าถึงประสบการณ์การใช้งานบ้าง สำหรับ ซัมซุง ซี ฟลิป
ในกรณีที่กางหน้าจอออกมานั้น จะมีขนาด 6.7 นิ้ว ถือว่า “ยาว” พอสมควรเลยทีเดียว พอพับครึ่งหน้าจอลงมา ก็จะเหลือเพียงครึ่งเดียว เป็นการพับหน้าจอที่ราบเรียบลงไปเลย ไม่มีส่วนโค้งนูนออกมาแต่อย่างใด
พอพับหน้าจอลงไป ก็จะเหลือตัวเครื่องเหมือนกับ “ตลับแป้ง” ที่ใครต่อใครชอบเรียกกัน เพราะขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถยัดเข้าใส่กระเป๋าได้อย่างง่ายดาย
เวลากางออกมา หน้าจอก็อาจจะไม่ได้ราบเรียบเลยทีเดียว เพราะมีส่วนตรงกลางที่ต้องถูกพับ ก็จะบุ๋มๆ ลงไปหน่อย แต่ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการใช้งานแต่อย่างใด ยังคงสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น
ส่วนวัสดุที่ใช้นั้น ให้ความมันวาว ซึ่งดูสวยหรูดี แต่เวลาใช้งานจริงๆ ถ้าไม่มีการใส่เคสมา เรียกได้ว่าพื้นผิวมีความ “ลื่น” พอสมควร เวลาใช้ก็ต้องระวังหน่อย
ด้วยเหตุนี้เอง ทางซัมซุงก็เลยจัดเคสป้องกันมาให้ในกล่อง เอาไว้สำหรับป้องกันตัวเครื่อง เผื่อร่วงหลุดมือจะได้มีอะไรคอยปกป้องอยู่บ้าง
เวลาที่พับหน้าจอลงมา ก็จะเหลือหน้าจอเล็กๆ เอาไว้ให้ ถ้าเวลาปกติ ก็จะแสดงผลเป็นนาฬิกา แต่เวลามีสายเข้า เราก็จะเห็น และสามารถเลื่อนเพื่อรับสายได้เลย ก็จะพูดสายแบบตัวเครื่องเล็กๆ ก็น่ารักไปอีกแบบ หรือจะเปิดหน้าจอขึ้นมาเพื่อรับสายตามปกติก็ได้
และยังสามารถใช้งานแบบ 2 หน้าจอพร้อมกันได้อีกด้วย เรียกได้ว่า ใช้ได้แบบสบายๆ เพราะว่า หน้าจอเครื่องเวลากางออกแล้ว ใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว
ในส่วนของกล้องนั้น กล้องหลังเป็นกล้องคู่ คือกล้องความละเอียดสูงสุด 12MP กับกล้อง 12MP ที่เป็น Ultra Wide ส่วนกล้องหน้า จะเป็นกล้องที่ให้ความละเอียดสูงสุด 10MP
ความเก๋ในการใช้งานของรุ่นนี้ คือ เวลาถ่ายเซลฟี่ ด้วยกล้องหน้านั้น เราจะสามารถพับหน้าจอให้เป็นฐานเอาไว้ได้ แล้วก็จะกดชัตเตอร์ หรือจะเข้าโหมดถ่ายภาพต่างๆ ได้ ก็คือ จะเหลือหน้าจอครึ่งหนึ่งเอาไว้สำหรับแสดงผลกล้อง และอีกครึ่งเป็นปุ่มเมนูของกล้องนั่นเอง
ไม่ลำบากต้องมาหาขาตั้งกล้อง หรือหาอะไรมาให้มือถือพิง หรือจะไม่ถ่ายเซลฟี่ เป็นการถ่ายด้วยกล้องหลังก็ได้ แล้วแต่ปรับใช้ตามสถานการณ์ ถือว่าสะดวกมากๆ
ในส่วนของผลของการถ่ายภาพนั้น บอกเลยว่า ถ่ายยังไงก็ “สวย” จะถ่ายกล้องหน้า กล้องหลัง มุมกว้าง มุมแคบ ก็ให้ภาพที่สวยประทับใจ แทบไม่ต้องปรับแต่งอะไร
จะถ่ายภาพในที่มืด ก็ออกมาสวยงาม จะถ่ายวิดีโอ ก็ให้ความละเอียดสูงถึงระดับ 4K เลยทีเดียว หรืออยากได้ภาพประเภทหน้าชัดหลังละลาย ก็จัดให้ได้
สำหรับสเปกตัวเครื่องนั้น มีหน่วยความจำ RAM มาให้ 8GB และ ROM 256GB ใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855+ Octa Core ความเร็ว : 2.95 GHz ใช้งาน หรือเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
และแม้ว่า หน้าจออาจจะดูกว้างกว่ารุ่นอื่นๆ แต่เวลาเล่นเกมไม่ใช่ปัญหา เพราะจะแสดงผลแบบเต็มหน้าจอ จับได้ถนัดมืออีกต่างหาก ด้วยความที่หน้าจอใหญ่
สำหรับการปลดล็อกหน้าจอนั้น ก็ทำได้ตั้งแต่การสแกนลายนิ้วมือ และการจดจำใบหน้า
รุ่นนี้ รองรับ อี-ซิม แล้วด้วย และยังสามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้ รองรับการชาร์จไว ขณะที่แบตเตอรี่ของเครื่อง ให้มา 3,300 mAh ก็ใช้งานได้ 1 วันเต็มๆ แบบสบายๆ
ตอนนี้เห็นว่า นอกเหนือจากสีดำกับสีม่วงแล้ว ตอนนี้ ก็มีสีทองเพิ่มมาอีกสี ยิ่งเพิ่มความหรูหรามากขึ้น โดยราคาเครื่องยังคงอยู่ที่ประมาณสี่หมื่นกว่าบาท ใครหาโปรโมชั่นคู่กับแพคเกจมือถือแบบถูกๆ ได้ ก็น่าจะคุ้มทีเดียว