รีเซต

ครม.ไฟเขียว 'สตช.' ตั้งศูนย์ฝึกอบรม เพื่อภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย-อารักขาบุคคลสำคัญ

ครม.ไฟเขียว 'สตช.' ตั้งศูนย์ฝึกอบรม เพื่อภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย-อารักขาบุคคลสำคัญ
มติชน
30 มีนาคม 2564 ( 17:25 )
67
ครม.ไฟเขียว 'สตช.' ตั้งศูนย์ฝึกอบรม เพื่อภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย-อารักขาบุคคลสำคัญ

‘ครม.’ ไฟเขียว ‘สตช.’ ตั้งศูนย์ฝึกอบรมเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการ สังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง-เพื่อภารกิจถวายความปลอดภัย อารักขาบุคคลสำคัญ ต่อต้านการก่อการร้าย

 

 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 30 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการ หรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สาระสำคัญคือการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการ และกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการดังกล่าว แก้ไขการแบ่งส่วนราชการภายในกองบังคับการอำนวยการ รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพของงานที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติภารกิจตามอำนาจหน้าที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น โดยเรื่องนี้จะส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีค่าใช้จ่ายงบบุคลากรเพิ่มขึ้นในส่วนของเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษประมาณ 2,283,600 บาทต่อปี

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของร่างกฎกระทรวง มีดังนี้คือ การกำหนดให้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ประกอบด้วย ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายฝึกอบรม ฝ่ายวิชาการ และฝ่ายวิทยบริการ กำหนดให้ศูนย์ฝึกอบรม มีอำนาจหน้าที่ เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจ โดยเน้นการฝึกอบรมพัฒนาทักษะในภารกิจถวายความปลอดภัยและอารักขาบุคคลสำคัญ การต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะด้านและอาชญากรรมองค์กร และทักษะทางยุทธวิธีและการปฏิบัติการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบริหารและพัฒนาการศึกษาตามระเบียบแบบแผนและหลักสูตรตลอดจนปรับปรุงพัฒนาหลักสูตร ระบบการเรียนการสอน และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้ และทักษะในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการและลูกจ้างของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และฝึกอบรมเฉพาะด้านเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันปราบปราม และการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ อาชญากรรม ทางเทคโนโลยี การค้ามนุษย์ ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การทุจริต และประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค การปฏิบัติงาน ป้องกันปราบปรามทางน้ำ การอำนวยความสะดวกและจัดการจราจร และการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนทางหลวงและทางพิเศษ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีหน้าที่ติดต่อและประสานความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา หรือองค์กรอื่น เพื่อมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย การอำนวยความยุติธรรมและการรักษาความปลอดภัยของประชาชน

 

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้งนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานว่า สภาพการณ์ปัจจุบันพบว่า ปัญหาอาชญากรรมมีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการกระทำความผิด ดังนั้น กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่บังคับใช้กฎหมายเฉพาะทาง จึงมีความจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจเพื่อเพิ่มพูนทักษะ ทบทวนความรู้ในการปฏิบัติงานให้เกิดความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธวิธีต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างความปลอดภัย และลดความสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปอย่างถูกต้องส่งเสริมให้ข้าราชการตำรวจมีระเบียบ วินัย และความประพฤติที่ดี

 

 

แต่เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางยังไม่มีหน่วยงานภายในที่รับผิดขอบในการจัดการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจโดยตรง และขาดการจัดการที่ดีในการฝึกอบรม จึงเสนอให้ตั้งจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเป็นหน่วยงานระดับกองบังคับการในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยยุบฝ่ายอำนวยการ 10 ในกองบังคับการอำนวยการ สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และปรับโอนภารกิจเกี่ยวกับการฝึกอบรมของกองกำกับการ 6 มารวมกับศูนย์ฝึกอบรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง