ชาวนาสุดเศร้า ช็อกหนัก ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว วัวตาย 11 ตัว สูญเป็นแสน
ชาวนาสุดเศร้า ช็อกหนัก ฟ้าผ่าเปรี้ยงเดียว วัวตาย 11 ตัว สูญเป็นแสน เผยฝนคะนอง ฟ้าผ่าโครมคราม กลับไปทุ่งนาเขาอ่อน วัวตายเรียบ
วันที่ 4 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 15.30 น. ร.ต.อ.อนุพงษ์ ประชานันท์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ดงครั่งใหญ่ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุว่าฟ้าผ่าทำให้วัวเสียชีวิตหลายตัว ที่บริเวณทุ่งนา บ้านดงครั่งน้อย หมู่ 1 ต.ดงครั่งน้อย อ.เกษตรวิสัย ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร
เมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายนิพนธ์ นครวงศ์ กำนันตำบลดงครั่งน้อย พบซากฝูงวัวนอนตายรวมกัน 11 ตัว ใกล้กับข้างคันนาซึ่งมีการปลูกต้นยูคาลิปตัสเอาไว้ โดยใบไม้มีรอยไหม้หลายต้น ซึ่งวัว 8 ใน 11 ตัวเป็นของ นางสถิต เหลาเกิ้มหุ่ง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 หมู่ 1 ต.ดงครั่งน้อย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด
สอบถาม นางสถิต เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและมีฟ้าผ่าเป็นระยะ ขนะนั้นตนก็พักอยู่ภายในบ้านพัก ก็พบว่ามีฝนตกไม่แรงมากนัก แต่มีฟ้าคะนองและฟ้าผ่าเสียงดังโครมคราม
หลังจากฝนหยุดตกช่วงเวลา 15.00 น. ตนจึงเดินไปที่ทุ่งนาเพื่อจะเอาวัวกลับเข้าคอก แต่เมื่อไปถึงทุ่งนาก็พบวัวล้มตายระเนระนาด ข้างคันคูนาที่ปลูกต้นยูคาลิปตัส ซึ่งจากการตรวจสอบพบวัวตายทั้งหมด 11 ตัว ซึ่งเป็นวัวของตน 8 ตัว มีวัวแม่พันธุ์ 4 ตัว วัวตัวเมียอายุ 2 ปีอีก 2 ตัว ลูกวัวอายุ 6 เดือน 1 ตัว และวัวพ่อพันธุ์อีก 1 ตัว รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 160,000 บาท และเป็นวัวของเพื่อนบ้านที่เลี้ยงอยู่ด้วยกันเป็นตัวเมียอีก 3 ตัว
สำหรับพื้นที่หมู่บ้านนี้ หน้าฝนเมื่อปีที่ผ่านมา ฟ้าก็เคยผ่าวัวชาวบ้านตายกว่า 10 ตัวมาแล้วเช่นกัน ภายหลังจากตำรวจตรวจสอบในที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว นางสถิตจึงได้นำซากวัวกลับเข้าหมู่บ้านและทำการแจกจ่ายให้ชาวบ้านคนอื่นๆนำไปประกอบอาหารต่อไป