อาคารเรียนอินโดนีเซียถล่ม นักเรียนเสียชีวิต 3 คน ขาดเจ็บนับร้อย เหตุต่อเติมชั้นเพิ่มแต่รับน้ำหนักไม่ไหว

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า เมื่อวานนี้ (29 กันยายน) เกิดเหตุอาคารโรงเรียนประจำมุสลิมชื่อ อัล โคซินี (Al Khoziny) ในเมืองซิโดอาร์โจ จังหวัดชวาตะวันออกพังถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 101 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว บางส่วนอาการสาหัส ขณะนี้กู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้ที่ติดใต้ซากอยู่ 38 คน โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชายที่รวมตัวกันละหมาด ขณะที่อาคารถล่มลงมาพอดี

ส่วนสาเหตุที่อาคารถล่ม เกิดจากโครงสร้างอาคารที่อ่อนแอ ไม่มั่นคง และไม่สามารถรองรับน้ำหนักของชั้น 2 ชั้นที่ต่อเติมเพิ่มขึ้นมาได้ ตำรวจรายงานว่า อาคารพังถล่มในขณะที่กำลังทำการก่อสร้างต่อเติมชั้นที่ 4

กู้ภัยที่ระดมมาหลายร้อยคนกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง มานานกว่า 12 ชั่วโมงแล้วนับจากเวลาเกิดเหตุ เด็กนักเรียนที่ถูกทับอยู่ใต้ซากมีอายุระหว่าง 12-17 ปี เจ้าหน้าที่ส่งอ็อกซิเจนและน้ำให้แก่เด็กที่ถูกทับอยู่ใต้ซาก เพื่อรักษาชีวิตของพวกเขา ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งช่วยชีวิตของเด็ก ๆ ออกมาจากใต้ซากอาคาร

ล่าสุดมีการระดมทีมกู้ภัย 56 กลุ่ม จำนวน 332 คน เพื่อช่วยคนหาผู้รอดชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังได้ยินเสียงร้องไห้อยู่ใต้ซากอาคาร โดยการกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากอาคารถล่มลงมาในลักษณะเหมือนแพนเค้ก เหลือช่องว่างเพียงแคบ ๆ และโครงสร้างไม่มั่นคง

สำหรับเด็กนักเรียนที่รอดชีวิตเล่าว่า ขณะเกิดเหตุ เขากำลังละหมาดและได้ยินเสียงเหมือนหินตกลงมา และมันค่อย ๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจวิ่งออกนอกอาคาร และก็ถูกเศษซากอาคารตกใส่ แต่ก็สามารถปีนออกมาจากซากได้ในท้ายที่สุด