ทองคำพุ่งแรง หลังสงครามการค้า”สหรัฐฯและจีน“ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น

ราคาทอง Spot ปรับขึ้นทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $3,300 และทำ All-time high แตะ $3,343 เช้าวันนี้ราคาทองยังทำ All-time high แตะ $3,357 เนื่องจากมีแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.83%
จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น หลังจีนประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 เม.ย.) เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 145% ประธานเฟดกล่าวในงานเสวนา ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐกิจแห่งชิคาโกเมื่อวานนี้ว่า นโยบายตั้งกำแพงภาษีในอัตราที่สูงเกินคาด จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นและเศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งกระทบต่อภารกิจ Dual Mandate ของเฟด คือการจ้างงานเต็มศักยภาพและอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ระดับ 2% ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทอง 4.02 ตัน
ราคาทองโลกที่ขึ้นทดสอบแนวต้านที่ระดับ 3,357 ดอลลาร์ต้องเผชิญกับแรงเทขายทำกำไร โดยหากวันนี้ราคาหลุดแนวรับที่ 3,000 ดอลลาร์ แนวโน้มอาจกลับสู่ขาลงอีกครั้ง
คืนนี้เวลา 19.15 น. ธนาคารกลางยุโรปจะมีการเผยผลการประชุม และในช่วง 19.30 น. สหรัฐฯ จะมีการเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟีย
ราคาทองโลกที่เร่งตัวขึ้นมา ยังคงติดแนวต้านที่ระดับ 3,357 ดอลลาร์ โดยประเมินว่าอาจมีการพักฐานจากแนวต้านนี้ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ 3,300 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,360 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 3,250 ดอลลาร์ลงไป
ทองคำในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้ง แม้จะถูกค่าเงินบาทกดดันอยู่ก็ตาม แต่ยังแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อสะสมจากแนวรับที่ 51,200 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 52,000 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับแรกที่ 50,800 บาทลงไป