ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์เงียบเหงา เจ้าหน้าที่เร่งรื้อโต๊ะเต็นท์ หลังพบนักศึกษากลับจากซาอุฯติดเชื้อ เตรียมเปิดใช้ด่านพรมแดนสะเดารับคนไทยกลับแทน ตั้งแต่ 31 พฤษภาคมนี้

บรรยากาศที่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เช้าวันนี้ ไม่มีคนไทยที่ได้ลงทะเบียนเพื่อขอเดินทางกลับเข้าประเทศ เดินทางจากประเทศมาเลเซีย กลับเข้ามาตามปกติ เนื่องจากด่านพรมแดนทั้งทางฝั่งประเทศมาเลเซียและด่านพรมแดนปาดังเบซาร์นั้น ปิดทำการในวันนี้ เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ

ภายหลังพบว่า นักศึกษาที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอารเบีย ผ่านทางด่านด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อ 25 พฤษภาคม ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 6 คน จากผู้เดินทาง 39 คน โดยในวันที่ 28 พ.ค. เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา ได้เข้ามารื้อเต็นท์ เก็บโต๊ะเก้าอี้ ออกจากพื้นที่ด่านพรมแดนแห่งนี้แล้ว

โดยนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ส่งหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ขอปิดด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา และขอเปิดด่านพรมแดนสะเดา อำเภอสะเดา เพื่อใช้เป็นช่องทางในการเปิดรับคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย กลับภูมิลำเนาแทน ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมนี้ หลังจากใช้ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ ในการเปิดรับคนไทยกลับมาแล้วประมาณ 1 เดือน

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อซึ่งเป็นนักศึกษาที่เดินทางกลับมาจากซาอุดิอารเบีย ที่รักษาตัวในจังหวัดสงขลา 3 คนนั้น ขณะนี้อาการอยู่ในระดับปกติ ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัวในกลุ่มนักศึกษาที่กลับจากซาอุดิอารเบีย จำนวน 2 ครั้ง รวมจำนวน 27 คน นั้น มีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เฝ้าติดตามสังเกตุอาการณ์อย่างใกล้ชิด แม้การตรวจเพาะเชื้อครั้งแรกทั้งหมดจะให้ผลเป็นลบ แต่ก็เตรียมที่จะตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 1 มิถุนายนนี้