รีเซต

เรือไฮโดรเจนใหญ่สุดในโลก ! นอร์เวย์เตรียมสร้างนวัตกรรมทำเพื่อโลก

เรือไฮโดรเจนใหญ่สุดในโลก ! นอร์เวย์เตรียมสร้างนวัตกรรมทำเพื่อโลก
TNN ช่อง16
24 เมษายน 2567 ( 02:24 )
35

อู่ต่อเรือสัญชาตินอร์เวย์ชื่อไมเคิลบัสต์ (Myklebust) ได้รับเลือกจากบริษัทขนส่งทอร์กัตเทน นอร์ด (Torghatten Nord) ให้สร้างเรือเฟอร์รี่พลังงานไฮโดรเจน 2 ลำ และที่สำคัญคือเมื่อสร้างเสร็จแล้ว มันจะเป็นเรือพลังงานไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดในโลก


เรือดังกล่าวนี้จะมีความยาว 117 เมตร ได้รับการออกแบบมาเพื่อขนส่งยานพาหนะอื่น ๆ ได้มากถึง 120 คัน และบรรทุกผู้โดยสารได้ 599 คน หากดำเนินการเต็มเวลาจะต้องใช้ไฮโดรเจนมากถึง 5 - 6 ตันต่อวัน ทั้งนี้เรือไม่ได้ใช้พลังงานไฮโดรเจนแบบ 100% แต่บริษัทก็อ้างว่าเรือจะแล่นโดยใช้พลังงานไฮโดรเจนครอบคุลมระยะทางอย่างน้อย 85% เรือจะถูกนำมาใช้เดินทางระหว่างแผ่นดินใหญ่ของนอร์เวย์ที่เมืองโบโด ไปยังหมู่เกาะโลโฟเทน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ปัจจุบันนี้เส้นทางดังกล่าวสัญจรด้วยเรือเฟอร์รี่ที่ใช้เชื้อเพลิง LNG เส้นทางนี้ต้องใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง หมายความว่าเรือจะต้องแล่นในระยะทางไกล และต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรงด้วย 


เรือจะถูกออกแบบโดยบริษัทออกแบบชื่อ นอร์วีเจียน ชิป ดีไซน์ (Norwegian Ship Design) ส่วนตัวเรือจะต่อที่โรงงานของ Myklebust ในเมืองกูร์สเคิน (Gursken) หมู่บ้านในเขตเทศบาลซานเด้ (Sande) บริเวณตะวันตกของนอร์เวย์ และคาดว่าจะส่งมอบเรือได้ภายในปี 2026


โครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการใหญ่และสำคัญ เพราะไม่เคยมีโครงการสร้างเรือไฮโดรเจนใหญ่ขนาดนี้ และไม่มีโครงการที่จะนำเรือไฮโดรเจนไปใช้ในเส้นทางที่ยาวขนาดนี้มาก่อน จึงต้องพิจารณาด้านความปลอดภัยทั้งหมด การพิจารณาการออกแบบ และแก้ปัญหาทางเทคนิคสำหรับเรือข้ามฟากระยะไกล สำหรับปัจจุบัน เรือพลังงานไฮโดรเจนที่ใหญ่ที่สุดคือเรือเอ็มเอฟ ไฮดรา (MF Hydra) ความยาว 82.4 เมตร บรรทุกผู้โดยสารได้ประมาณ 300 คนและรถยนต์ประมาณ 80 คัน เรือลำนี้สร้างโดยบริษัทเดินเรือของนอร์เวย์เช่นกันชื่อบริษัทนอร์เลด (Norled) 


มาเรียส ฮานเซน (Marius Hansen) กรรมการผู้จัดการบริษัท Torghatten Nord กล่าวว่า “ไม่มีโครงการไฮโดรเจนทางทะเลในระดับสากลที่ใกล้เคียงกับขนาดและความทะเยอทะยานได้เท่ากับโครงการนี้” ทั้งนี้ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าเรือลำนี้จะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่อีกด้วย


เรือพลังงานไฮโดรเจนนี้คาดว่าจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 26,500 ตันต่อปี นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทำเพื่อโลกที่น่าสนใจมาก ๆ 


ที่มาข้อมูล Maritime-executiveInterestingEngineering

ที่มารูปภาพ Myklebustverft

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง