รีเซต

งานเข้า! นักธุรกิจเช็กซิ่งบูกัตติ 417 กม./ชม. ถูกรัฐบาลเยอรมันสอบ ชี้อาจผิดกฎหมาย (คลิป)

งานเข้า! นักธุรกิจเช็กซิ่งบูกัตติ 417 กม./ชม. ถูกรัฐบาลเยอรมันสอบ ชี้อาจผิดกฎหมาย (คลิป)
มติชน
8 กุมภาพันธ์ 2565 ( 12:29 )
70
งานเข้า! นักธุรกิจเช็กซิ่งบูกัตติ 417 กม./ชม. ถูกรัฐบาลเยอรมันสอบ ชี้อาจผิดกฎหมาย (คลิป)

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายราดิม ปาสเซอร์ เศรษฐีนักธุรกิจเช็กวัย 58 ปีที่ได้เผยแพร่คลิปที่ตัวเขาซิ่งรถบูกัตติ ชิรอนด้วยความเร็ว 417 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนออโตบาห์น ซึ่งเป็นถนนที่ไม่จำกัดความเร็วของเยอรมนี บนช่องยูทูบของตัวเอง ล่าสุดนายปาสเซอร์กำลังถูกสำนักอัยการในเมืองสเตนดัล แคว้นรัฐซัคเซิน-อันฮัลท์ของเยอรมนี ตรวจสอบว่าการขับรถเร็วเขาของจะเข้าข่ายการแข่งรถที่ผิดกฎหมายหรือไม่

 

วิดีโอที่ถ่ายทำตั้งแต่ช่วงกลางปีก่อน แสดงภาพผ่านกล้องหน้ารถและภาพเครื่องวัดความเร็วที่แสดงว่าผลว่ารถทำความเร็วได้ถึง 417 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะกำลังขับอยู่บนออโตบาห์นระหว่างกรุงเบอร์ลินและเมืองแม็กเดอเบิร์ก ทางตะวันตกของกรุงเบอร์ลิน ล่าสุดวิดีโอดังกล่าวที่เพิ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 มกราคมมีผู้เข้าชมแล้วมากกว่า 9.3 ล้านครั้ง

 

นายปาสเซอร์ชี้แจงประเด็นที่ผู้คนบอกว่าเขาขับรถอันตรายและไม่มีความรับผิดชอบว่า เขาได้เลือกเวลา 4.50 ของวันอาทิตย์ ซึ่งมีรถน้อย โดยพบรถแค่ 10 คันต่อ 10 กิโลเมตร วันนั้นเป็นวันที่มีอากาศดี ทัศนวิสัยชัดเจนมองเห็นได้ไกล 3-4 กิโลเมตร ถนนเส้นนี้มีรั้วกันฉะนั้นไม่มีสัตว์ผ่านมาแน่ๆ แต่หากมีอะไรมาขวางด้านหน้าพอดี รถคนนี้ก็สามารถเบรคได้อย่างดีเยี่ยม จากความเร็ว 400 กิโลเมตรเหลือ 0 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลาเพียง 9 วินาทีและใช้ระยะทางเพียง 490 เมตร นอกจากนี้เขายังมีทีมงานคอยเช็กความปลอดภัยอยู่บนสะพานและได้ขับรถเช็กเส้นทางแล้วก่อนหน้านี้ว่าไม่มีอะไรขวางทาง

 

ทั้งนี้ตำรวจทางหลวงเริ่มการสอบสวนเรื่องนี้ หลังจากได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวอย่างกว้างขวางในสื่อต่างๆ ก่อนที่ผลการตรวจสอบจะถูกส่งไปยังสำนักงานอัยการซึ่งเริ่มทำการประเมินทางด้านกฎหมายแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญาของเยอรมนี การขับรถคนเดียวยังสามารถจัดว่าเป็นการแข่งขันที่ผิดกฎหมาย หากผู้ขับขี่ขับไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ไม่เหมาะสม และขับในลักษณะที่ละเมิดกฎหมายจราจรอย่างร้ายแรงรวมถึงประมาทเลินเล่อ

 

ด้านนายโวคเกอร์ วิสซิง รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของเยอรมนี ประณามทัศนคติของผู้ขับขี่รายนี้ โดยระบุว่าแม้จะไม่มีการจำกัดความเร็ว แต่รถควรอยู่ภายใต้การควบคุมเสมอ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง