NRFบาทอ่อนส่งออกพุ่ง ปิดดีลอีคอมเมิร์ซพ.ค.นี้

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่า จะเป็นผลบวกต่อบริษัทเพราะรายได้หลักของบริษัทมาจากการส่งออก ดังนั้นการอ่อนค่าของค่าเงินบาททำให้บริษัทได้รับอานิสงส์จากส่วนนี้ค่อนข้างมาก และปีนี้บริษัทยังเชื่อมั่นว่ารายได้จะเติบโต 50-70% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,100 ล้านบาท

โดยทุกกลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มเครื่องปรุง หรือ Ethnic Food ซึ่งมีทั้ง OEM และ NRF Brands 2.กลุ่มโปรตีนพืช หรือ  Plant-Based Foodและ 3.กลุ่ม Functional Productรวมถึงกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ จะปิดดีลอีคอมเมิร์ซอีก 1 ดีล ซึ่งจะมาสนับสนุนการเติบโต

สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่จะเข้าไปลงทุนใน Amazon.com ซึ่งมีศักยภาพธุรกิจ เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการเป็นตลาดกลางออนไลน์ มีการเติบโตที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในยุคปัจจุบันที่มีการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

“ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า ส่งผลดีต่อบริษัท เพราะรายได้หลักของเรามาจากการส่งออก ปีนี้รายได้ยังเป็นไปตามเป้ราหมายที่จะเติบโตได้ 50-70% และบริษัทก็มีการเจรากับพันธมิตรต่อเนื่อง ทีจะต่อยอดธุรกิจร่วมกัน เพราะไม่ได้ปิดกั้นโอกาสทางธุรกิจ และยังมีดีล Ecommace ที่อยู่ระหว่างการเจราจาหลายดีล แต่คาดว่าเดือนพฤษภาคมนี้จะสรุปได้ 1 ดีล แต่อาจจะเป็นดีลขนาดเล็ก” นายแดน กล่าว

*ธุรกิจ Plant–Based โอกาสโต

สำหรับธุรกิจโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ก็มีแนวโน้มเติบโตได้ดี ส่วนการร่วมทุนกับ PTT ก็ยังเดินหน้าจัดตั้งโรงงานอาหารโปรตีนจากพืช ตามแผนเพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางในการผลิตและจัดจำหน่ายทั่วภูมิภาคอาเซียน โดยบริษัทร่วมทุนจะประกอบธุรกิจผลิตและขายสินค้า Plant-Based, Experience Store และ วิจัยและพัฒนา (R&D) โปรตีนทางเลือกอื่นๆ (Alternative Proteins) ในอนาคต รองรับอุตสาหกรรมที่กำลังที่นิยมอย่างสูง

รวมไปถึงการที่ทำบันทึกข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (TIF) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Plant-Based Food ให้กับ NRF เปิดโอกาสให้ NRF ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารโปรตีนจากพืช Top 5 ของโลก

@Q1 เติบโตอีคอมเมิร์ซหนุน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NRF คาดกำไรปกติ และรายได้ ไตรมาส 1/2565 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) โดยธุรกิจอีคอมเมิร์ซ จะเป็นปัจจัยหนุนที่จะมีการจะรับรู้รายได้ได้มากขึ้น และบริษัทยังมีแผนในการสร้างการเติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะเห็นผลประกอบการที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลที่เป็นช่วงโลว์ซีซันของการส่งออก

อย่างไรก็ดีบริษัทมีโอกาสที่จะปรับประมาณการปี 2565 และราคาเป้าหมายลงเล็กน้อย จากราคาเป้าหมายปัจจุบัน 9.25 บาท เพื่อสะท้อน ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A)/ยอดขาย ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดตามสัดส่วนรายได้ อีคอมเมิร์ซที่เข้ามามากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังมองว่าปี 2566 ผลผประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ดี โดยจะได้รับแรงหนุนจากธุรกิจ Plant – Based ที่ปีหน้าจะมีการรับรู้รายได้เต็มปี ทั้งจากการตั้งโรงงานร่วมกับ PTT และให้ความช่วยเหลือทางการเงินและลงทุนในบริษัท Turtle Island Foods, SPC (TIF) ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะช่วยต่อยอดการเติบโตของธุรกิจ Plant – Based ในสหรัฐด้วย ดังนั้นเชื่อว่ารายได้จากธุรกิจ Plant – Based ปี 2566 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ