"สนค." ชี้"พืชน้ำมัน"ไทยมีโอกาสในตลาดโลก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการ สนค. เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามสถานการณ์การบริโภคน้ำมันพืชทั่วโลก โดยฐานข้อมูลด้านการตลาดและอุตสาหกรรม Statista พบว่าในช่วงปี 2558 – 2568 เติบโตเฉลี่ย 2.48% ต่อปี แนวโน้มการบริโภคน้ำมันพืชที่เพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้พืชน้ำมันของไทย ที่มีศักยภาพในการเพาะปลูกหรือแปรรูป เช่น ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง รำข้าว และมะพร้าว เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาศักยภาพด้านการผลิตและการค้าน้ำมันพืชของไทย เช่น น้ำมันปาล์ม ในปี 2567 ไทยมีผลผลิตปาล์มน้ำมันเป็นอันดับที่ 3 ของโลก (รองจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย) สัดส่วนการผลิต 4.47% ของการผลิตโลก น้ำมันรำข้าว ไทยมีผลผลิตข้าวเปลือกเป็นอันดับที่ 6 ของโลก สัดส่วนการผลิต 4.13% ของการผลิตโลก น้ำมันมะพร้าว เป็นอันดับที่ 10 ของโลก สัดส่วนการผลิต 1.41%
สำหรับแนวโน้มการบริโภคน้ำมันพืชของโลกที่เพิ่มขึ้น เป็นโอกาสการพัฒนาสินค้าเกษตรไทย จะเห็นได้ว่าทั้งน้ำมันปาล์มและน้ำมันรำข้าว เป็นน้ำมันพืชที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออก ขณะที่น้ำมันถั่วเหลือง ไทยมีศักยภาพในการส่งออก โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า มูลค่าการส่งออกน้ำมันถั่วเหลืองของไทยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี 22.72% แต่จำเป็นต้องนำเข้าเมล็ดถั่วเหลือง เพื่อมาสกัดและแปรรูปเพื่อการส่งออก เนื่องจากการผลิตเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศมีต้นทุนสูงกว่า สำหรับน้ำมันมะพร้าว ในปัจจุบันมุ่งเน้นการส่งออกน้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าว และกะทิ มากกว่านำมาแปรรูปเป็นน้ำมัน
ดังนั้น การที่ประเทศไทยมีจุดแข็งด้านภูมิประเทศและอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชหลากชนิด และสามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตน้ำมันได้หลายประเภท จึงควรส่งเสริม การผลิตพืชน้ำมันให้สอดคล้องตามความต้องการน้ำมันพืชของโลก ทั้งกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป (Mass Market) และตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) เช่น กลุ่มคนรักสุขภาพ และกลุ่มมังสวิรัติ เป็นต้น อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรไทย สร้างพืชเศรษฐกิจใหม่ ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมน้ำมันพืชไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
