"จีน-อียู" ฝ่า"ภาษีสหรัฐ" ลงทุนพุ่งร้อยละ 47รอบ 8 ปี

สำนักข่าว China Daily รายงานว่า จีนและสหภาพยุโรป (EU) กำลังยกระดับความร่วมมือในช่วงเวลาที่สหรัฐเพิ่มแรงกดดันด้านภาษีและการค้าโลกมีแนวโน้มแตกแยกมากขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นี่สะท้อนถึงพันธกิจร่วมกันของจีนและ EU ที่มุ่งสู่ความเปิดกว้าง เสถียรภาพ และผลประโยชน์ร่วมกันในโลกที่ไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ในปี 2567 การลงทุนจากจีนใน EU เพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 10,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งสำคัญครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559
การเติบโตดังกล่าวขับเคลื่อนโดยการลงทุนแบบ “Greenfield” ที่ทำสถิติสูงสุด และการฟื้นตัวของการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสอดคล้องทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ระหว่างทั้งสองฝ่าย ตามรายงานร่วมจาก Rhodium Group ในนิวยอร์ก และสถาบันวิจัย Mercator Institute for China Studies ของเยอรมนี
นักวิเคราะห์ระบุว่า แนวโน้มนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-อียู ในช่วงที่นโยบายภาษีฝ่ายเดียวของสหรัฐเสี่ยงทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก ทั้งยังชี้ว่า การเสริมสร้างความร่วมมือในด้านพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และการผลิตอัจฉริยะ จะไม่เพียงตอบโจทย์การพัฒนาของทั้งสองฝ่าย แต่ยังช่วยปกป้องระบบการค้ามหภาคอีกด้วย
การลงทุน Greenfield ของจีนในยุโรปเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.9 พันล้านยูโร ขณะที่การควบรวมและซื้อกิจการเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในปี 2567 อยู่ที่ 4.1 พันล้านยูโร
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า ณ สิ้นปี 2567 บริษัทในอียูได้ลงทุนในจีนรวมแล้วมากกว่า 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันการลงทุนของจีนในยุโรปอาจเพิ่มขึ้นอีกในปี 2568 หากความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอียูดีขึ้นจากผลของสงครามการค้าใหม่ที่สหรัฐจุดขึ้น