ปลัดคลัง เผย 'อาคเนย์-ไทยประกันภัย' ไม่ต้องเข้ากองทุนประกัน ชี้คืนเบี้ยประกันได้เยอะกว่า
ปลัดคลัง เผย อาคเนย์-ไทยประกันภัย ไม่ต้องเข้ากองทุนประกัน ชี้บริษัทประกาศคืนเบี้ยประกัน ได้เยอะกว่า รอเข้ากองทุนแน่
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า
กรณีที่บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำขอเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อ คปภ.นั้น ไม่เข้าข่ายการดูแลจากกองทุนประกันวินาศภัย เนื่องจากกองทุนฯ จะมีหน้าที่ก็ต่อเมื่อบริษัทประกันภัยถูกสั้งปิดกิจการ แต่กรณีของ 2 บริษัทดังกล่าว เป็นการขอคืนใบอนุญาต หรือขอเลิกประกอบกิจการ ทั้งนี้ กองทุนก็ยังมีเงินอยู่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งสามารถดูแลการยื่นขอเคลมประกันของ บริษัทเอเชียประกันภัย และบริษัทเดอะวันประกันภัยได้
“กรณีของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไม่เกี่ยวกับกองทุน โดยทั้ง 2 บริษัทขอเลิกกิจการ ไม่ได้เข้าตามกฎหมายของกองทุน แต่ในหลักการขอปิดกิจการ คปภ. ก็ไม่ได้ขัดข้อง แต่วิธีการดูแลลูกค้าก็ต้องมีรายละเอียด โดยขณะนี้ 2 บริษัท ก็อยู่ระหว่างหารือวิธีการที่จะไปดำเนินการ” นายกฤษฎา กล่าว
นายกฤษฎา กล่าวว่า ทั้งนี้ ทราบข่าวแล้วว่าทั้ง 2 บริษัท อาคเนย์ประกันภัยและไทยประกันภัย ได้มีการเสนอแนวทางให้แก่ลูกค้าประกันภัยโควิด-19 ที่ยังไม่เคยแจ้งขอชดเชยค่าสินไหมหรือเคลมประกัน โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์เพื่อขอรับเบี้ยประกันภัยคืนเต็มจำนวน ซึ่งหากถามว่ากรณีนี้จะดีกว่ากรณีที่ไปเข้ากองทุนประกันแล้วถูกปิดหรือไม่นั้น อย่างน้อยทุกคนก็ได้รับการดูแล หากถูกปิดแล้วไปเจ้าหนี้ทุกคนก็ต้องไปขอเฉลี่ยทรัพย์สินจากที่ล้มละลาย ซึ่งที่ผ่านมาการล้มละลายก็ได้รับไม่กี่บาท ทั้งนี้ ในส่วนของประกันที่ไม่ใช่ประกันภัยโควิด คงไม่มีปัญหา เพราะบริษัทประกันอื่นๆ พร้อมที่จะรับไปลูกค้าไปดูแลต่อ
“การขอคืนเบี้ยประกัน ตามที่บริษัทประกาศออกมา ลูกค้าจะได้รับเบี้ยประกันคืนเยอะกว่า กรณีที่รอให้บริษัทถูกสั่งปิดกิจการ จะเป็นเจ้าหนี้แล้วไปขอเฉลี่ยทรัพย์ ซึ่งบริษัทอาจจะไม่มีวงเงินเหลือ เมื่อเฉลี่ยหารจำนวนผู้คืนเบี้ยประกันออกมาแล้ว อาจจะได้รับเบี้ยคืนเหลือรายละไม่กี่บาท” นายกฤษฎา กล่าว