เปิดภาพพิธีฌาปนกิจ "ณรงค์ โชควัฒนา" ผู้บริหารในเครือสหพัฒน์
จากกรณี ดร.ณรงค์ โชควัฒนา ผู้บริหารในเครือสหพัฒน์ วัย 77 ปี ได้เสียชีวิตจากโควิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2564
ล่าสุด เพจของลูกสาวของดร.ณรงค์ เผยแพร่ภาพงานฌาปนกิจ ดร.ณรงค์ จัดขึ้น ณ วัดเรืองยศสุทธาราม กทม. โดยมีผู้บริหารในเครือสหพัฒน์ ร่วมอาลัย
ทั้งนี้ ดร.ณรงค์ เป็นประธานกลุ่มเศรษฐกิจ คลังสมอง วปอ. (เพื่อสังคม) บุตรคนที่ 6 ของนายเทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งธุรกิจเครือสหพัฒน์ ด้วยสถานการณ์การป้องกันโควิด จึงมีญาติและแขกผู้ใกล้ชิดเข้าร่วมงานได้เพียงเล็กน้อย ด้าน ดร.ณพลเดช มณีลังกา เลขานุการกลุ่มป้องกันประเทศ คลังสมอง วปอ. (เพื่อสังคม) และประธานรุ่นหลักสูตร นพม. รุ่นที่4 กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจ ที่ต้องเสียคนดีๆ ของสังคมไป ทุกคนในเครือข่ายคลังสมอง วปอ.ฯ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียดายคนเก่งและดี เช่น ดร.ณรงค์ เป็นอย่างมาก โดยพิธีกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วโดยเคลื่อนศพจากโรงพยาบาลนวเวช เขตบึงกุ่ม นำมาฌาปนกิจศพที่ วัดเรืองยศสุทธาราม เขตบางคอแหลม โดยจะมีการเก็บอัฐิในวันพรุ่งนี้
ดร.ณพลเดช กล่าวว่า อยากจะให้รัฐบาลเร่งวางแผนนำวัคซีนเข้ามาอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ในขณะที่กำลังดำเนินการจัดหาวัคซีน ต้องเร่งตรวจโควิดเชิงรุกแบบปูพรม โดยต้องนำชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test ลงพื้นที่อย่างเต็มจำนวนในราคาที่ถูกที่สุดตามราคาหน้าโรงงาน (ไม่เกิน 30 บาท) เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าใครอยู่ในพื้นที่แล้วติดบ้าง เพราะศัตรูเป็นเชื้อไวรัสเรามองไม่เห็นเขา การที่จะทำให้เจอศัตรูก็ต้องใช้เครื่องตรวจ และทำการคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ที่ไม่ติดเชื้อโดยเร่งด่วน และจัดสถานที่เพื่อให้ความปลอดภัยกับผู้ป่วยติดเชื้อได้ ขณะนี้เตียงสนามไม่พอ เราสามารถทำจุดพักคอยแต่มีผู้มีความรู้ทางการแพทย์ไปให้ความรู้และวิธีปฏิบัติตนในเบื้องต้น เพราะจะมารอบุคลากรทางการแพทย์ พวกเขาเหนื่อยล้ากันมากแล้ว ควรสร้างทีมเสริมโดยเอากลุ่ม อสส. อสม. หรือผู้มีความรู้ทางแพทย์แผนไทยมาช่วยสนับสนุนอีกแรง จะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด อย่างเช่นประเทศจีน เขาติดเชื้อกันเพียง 8 หมื่นคนแล้วก็หยุด เพราะเขาจัดการการแยกคนติดออกจากคนไม่ติดได้อย่างเด็ดขาดและเข้มงวด มีการตรวจซ้ำแล้วซ้ำอีกทุก 3 วันเพื่อหาศัตรูคือไวรัส พร้อมกับให้ความรู้กับประชาชนในการป้องกันและดูแลตัวเองได้อย่างทันท่วงที และนำยาสมุนไพรจีนเพื่อเพิ่มภูมิสำหรับผู้ยังไม่ติดเชื้อ และมียาสมุนไพรจีนสำหรับกลุ่มคนที่ติดเชื้อและรักษาให้หายในที่สุด ภายหลังมีการพัฒนาวัคซีนจนทำให้คนจีนปลอดภัย สิ่งนี้ตนอยากจะให้รัฐบาลเร่งทำ ไม่เช่นนั้นเราจะต้องเสียคนเก่ง คนดี คนอันเป็นที่รัก เช่น ดร.ณรงค์ ต้องจากไปอีกมาก ดร.ณพลเดช กล่าว