รีเซต

นศ.สาว เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏตุ๋นซ้ำ เอาเลขบัญชี ไปหลอกโอนเงิน

นศ.สาว เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏตุ๋นซ้ำ เอาเลขบัญชี ไปหลอกโอนเงิน
ข่าวสด
28 ธันวาคม 2563 ( 10:08 )
91

นศ.สาว19 เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏ ตุ๋นซ้ำ หลังโพสต์รับจ้างแปลภาษา เข้ามาแซ็ตพูดคุย ก่อนขอเลขบัญชี แล้วเอาไปหลอกโอนเงิน

 

วันที่ 28 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้รับการร้องทุกข์จากนักศึกษารายหนึ่งทราบชื่อคือ น.ส.ณัฐกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวจ.อ่างทอง กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องตกเป็นจำเลยโดยที่ไม่รู้ตัว หลังจากเกิดการระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัส โควิด 19 ต้องบินกลับมาเรียนออนไลน์ที่ประเทศไทยบ้านเกิด

 

https://www.youtube.com/watch?v=1I0S7JTqrjY&feature=youtu.be

 

โดยระหว่างที่พักอยู่บ้าน ได้หารายได้เสริมช่วยเหลือครอบครัว โดยการโพสต์เฟซบุ๊กรับจ้างทำรายงานและแปลภาษาตามความถนัด แต่มาโดนมิจฉาชีพเค้ามาตีสนิท แช็ตพูดคุยและขอให้ส่งบัญชีเงินฝากไปให้ เพราะเข้าใจว่าจะจ้างทำงานและโอนเงินให้ แต่กลับชวนทำงานเติมเงินออนไลน์ โดยให้เปอร์เซ็นต์รับโอนเป็นรายได้ช่วยเหลือครอบครับ

 

และนำเลขบัญชีของนักศึกษาสาว ไปหลอกผู้อื่นโอนเงินเข้าบัญชี รวมแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 108,000 บาท ทั้งที่นักศึกษาสาวได้ตอบกลับไปว่าไม่ทำแล้ว เพราะเห็นผิดสังเกตและไม่สะดวกต้องเลี้ยงหลาน จนมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงินแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง ในฐานะเจ้าของบัญชีมาแล้ว 2 ราย ทำให้เสียชื่อเสียงและต้องตกเป็นจำเลยโดยที่ไม่รู้ตัว

 

น.ส.ณัฐกมล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับการติตต่อจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ณัชชา ณัชชา ให้ทำงานและขอเลขบัญชีของตนเองไป ตอนแรกตนเองคิดว่าจะจ้างทำรายงานและแปลภาษาจึงได้ยินยอมให้ไป แต่เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวให้ทำงานเป็นการซื้อบัตรเติมเงิน แล้วส่งยอดเงินให้กับลูกค้า ต่อมาวันเดียวกันได้มีเงิน 8,500 บาท เข้ามาที่บัญชีของตนเอง โดยคนใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวแจ้งว่าไม่ต้องซื้อบัตรเติมเงิน แต่ให้ตนเองส่งรหัสกดเงิน โดยไม่ใช้บัตรกดเงินสดจากบัญชีของตนเอง ไปยังบัญชีอื่นตามที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ให้มา

โดยให้ค่าตอบแทน 200 บาทต่อครั้ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ได้ทำในลักษณะนี้อีกจำนวน 10 ครั้ง ต่อมาตนเองจึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับครอบครัว แนะนำว่าน่าจะเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ ที่หลอกใช้บัญชีของตนเอง เพื่อรับเงินและส่งเงินให้กับคนร้าย ตนเองจึงเดินทางไปทำการอายัดบัญชีที่ธนาคารในวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนมาทราบจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่ามีผู้เสียหาย 2 ราย ที่แจ้งความขอตรวจสอบเจ้าของบัญชีนี้

 

โดยตนเองได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. สิริชัย สีนิล รองสารวัตรสอนสวน สภ.เมืองอ่างทอง ไว้เป็นหลักฐาน และหาต้นตอมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี เพราะทำให้ตนเองและครอบครัวเสียหาย ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมโดยที่ไม่รู้ตัว

 

ทางด้านนางรุ่งระวี อายุ 68 ปี ยายของผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองรู้สึกสงสารหลานสาวมาก หลานสาวเป็นเด็กดีเรียนในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ประเทศจีน ก่อนที่จะต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะพิษไวรัส โควิด 19 ในยามว่างก็ขยันหาเงินโดยการรับจ้างทำงานช่วยเหลือครอบครัว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเลขบัญชีธนาคาร ไปหลอกหลวงให้ผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีของหลานสาว โดยนำเปอร์เซ็นต์ค่าโอนเงินมาล่อใจ

 

 

ซึ่งหลานสาวของตนเองได้ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่ทางมิจฉาชีพรายนี้ก็ยังเอาบัญชีของหลานสาวไปหลอกคนอื่นให้โอนเงิน จนมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนแจ้งความดำเนินคดี หลานสาวตนเองยังเด็กจึงยังไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ ตนเองไม่อยากให้ตกเป็นจำเลยของสังคม จึงได้ให้หลานสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง