นศ.สาว เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏตุ๋นซ้ำ เอาเลขบัญชี ไปหลอกโอนเงิน
![นศ.สาว เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏตุ๋นซ้ำ เอาเลขบัญชี ไปหลอกโอนเงิน](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/03/25/20dd56b0-6e5a-11ea-b8a2-09037777d4af_original.png)
![นศ.สาว เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏตุ๋นซ้ำ เอาเลขบัญชี ไปหลอกโอนเงิน](https://cms.dmpcdn.com/news/2020/12/28/f84fe850-48bc-11eb-9a68-816ba62206b1_original.jpg)
นศ.สาว19 เรียนที่จีน หนีพิษโควิดกลับไทย เจอ18มงกุฏ ตุ๋นซ้ำ หลังโพสต์รับจ้างแปลภาษา เข้ามาแซ็ตพูดคุย ก่อนขอเลขบัญชี แล้วเอาไปหลอกโอนเงิน
วันที่ 28 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้รับการร้องทุกข์จากนักศึกษารายหนึ่งทราบชื่อคือ น.ส.ณัฐกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวจ.อ่างทอง กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องตกเป็นจำเลยโดยที่ไม่รู้ตัว หลังจากเกิดการระบาดไปทั่วโลกของเชื้อไวรัส โควิด 19 ต้องบินกลับมาเรียนออนไลน์ที่ประเทศไทยบ้านเกิด
https://www.youtube.com/watch?v=1I0S7JTqrjY&feature=youtu.be
โดยระหว่างที่พักอยู่บ้าน ได้หารายได้เสริมช่วยเหลือครอบครัว โดยการโพสต์เฟซบุ๊กรับจ้างทำรายงานและแปลภาษาตามความถนัด แต่มาโดนมิจฉาชีพเค้ามาตีสนิท แช็ตพูดคุยและขอให้ส่งบัญชีเงินฝากไปให้ เพราะเข้าใจว่าจะจ้างทำงานและโอนเงินให้ แต่กลับชวนทำงานเติมเงินออนไลน์ โดยให้เปอร์เซ็นต์รับโอนเป็นรายได้ช่วยเหลือครอบครับ
และนำเลขบัญชีของนักศึกษาสาว ไปหลอกผู้อื่นโอนเงินเข้าบัญชี รวมแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง เป็นจำนวนเงินกว่า 108,000 บาท ทั้งที่นักศึกษาสาวได้ตอบกลับไปว่าไม่ทำแล้ว เพราะเห็นผิดสังเกตและไม่สะดวกต้องเลี้ยงหลาน จนมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้โอนเงินแจ้งความดำเนินคดีกับตนเอง ในฐานะเจ้าของบัญชีมาแล้ว 2 ราย ทำให้เสียชื่อเสียงและต้องตกเป็นจำเลยโดยที่ไม่รู้ตัว
น.ส.ณัฐกมล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้รับการติตต่อจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ณัชชา ณัชชา ให้ทำงานและขอเลขบัญชีของตนเองไป ตอนแรกตนเองคิดว่าจะจ้างทำรายงานและแปลภาษาจึงได้ยินยอมให้ไป แต่เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวให้ทำงานเป็นการซื้อบัตรเติมเงิน แล้วส่งยอดเงินให้กับลูกค้า ต่อมาวันเดียวกันได้มีเงิน 8,500 บาท เข้ามาที่บัญชีของตนเอง โดยคนใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวแจ้งว่าไม่ต้องซื้อบัตรเติมเงิน แต่ให้ตนเองส่งรหัสกดเงิน โดยไม่ใช้บัตรกดเงินสดจากบัญชีของตนเอง ไปยังบัญชีอื่นตามที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ให้มา
โดยให้ค่าตอบแทน 200 บาทต่อครั้ง ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ ได้ทำในลักษณะนี้อีกจำนวน 10 ครั้ง ต่อมาตนเองจึงได้นำเรื่องไปปรึกษากับครอบครัว แนะนำว่าน่าจะเป็นการกระทำของมิจฉาชีพ ที่หลอกใช้บัญชีของตนเอง เพื่อรับเงินและส่งเงินให้กับคนร้าย ตนเองจึงเดินทางไปทำการอายัดบัญชีที่ธนาคารในวันที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนมาทราบจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่ามีผู้เสียหาย 2 ราย ที่แจ้งความขอตรวจสอบเจ้าของบัญชีนี้
โดยตนเองได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. สิริชัย สีนิล รองสารวัตรสอนสวน สภ.เมืองอ่างทอง ไว้เป็นหลักฐาน และหาต้นตอมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี เพราะทำให้ตนเองและครอบครัวเสียหาย ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมโดยที่ไม่รู้ตัว
ทางด้านนางรุ่งระวี อายุ 68 ปี ยายของผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองรู้สึกสงสารหลานสาวมาก หลานสาวเป็นเด็กดีเรียนในระดับปริญญาตรีอยู่ที่ประเทศจีน ก่อนที่จะต้องกลับมาอยู่ที่บ้านเพราะพิษไวรัส โควิด 19 ในยามว่างก็ขยันหาเงินโดยการรับจ้างทำงานช่วยเหลือครอบครัว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเลขบัญชีธนาคาร ไปหลอกหลวงให้ผู้ที่หลงเชื่อโอนเงินเข้ามาในบัญชีของหลานสาว โดยนำเปอร์เซ็นต์ค่าโอนเงินมาล่อใจ
ซึ่งหลานสาวของตนเองได้ปฏิเสธไปหลายครั้ง แต่ทางมิจฉาชีพรายนี้ก็ยังเอาบัญชีของหลานสาวไปหลอกคนอื่นให้โอนเงิน จนมีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนแจ้งความดำเนินคดี หลานสาวตนเองยังเด็กจึงยังไม่รู้เล่ห์เหลี่ยมของมิจฉาชีพ ตนเองไม่อยากให้ตกเป็นจำเลยของสังคม จึงได้ให้หลานสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป