นครพนมวุ่น! พริตตี้สาวกินไม่รู้รสพบ ติดโควิด หลังกลับจากภูเก็ต กักตัวญาติ 3 คน
ผู้ว่าฯนครพนมลงพื้นที่ด่วน หลังพบพริตตี้สาว ติดโควิด หลังจากกลับมาจากภูเก็ต สั่งทีมคัดกรองวางมาตรการดูแลชาวบ้านในพื้นที่ กักตัวญาติ 3 รายแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่า โควิด-19 ล่าสุดมีรายงานว่า น.พ.ชิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครพนม และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข อ.ศรีสงคราม รายงานตรวจพบผู้ป่วยโควิดยืนยันในพื้นที่ จ.นครพนม เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 2
โดยจากการตรวจสอบข้อมูลผู้ติดเชื้อโควอดรายนี้ เป็นหญิงวัย 34 ปี ทำงานเป็นพริตตี้สาวในสถานบันเทิงที่จ.ภูเก็ต หลังจากหยุดพักงาน เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวตามลำพัง เข้าพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อกลับภูมิลำเนา บ้านดอนถ่อน หมู่ 12 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
จนกระทั่งพบว่ามีอาการป่วยผิดปกติ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นลิ้นไม่รู้รส จึงเข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ศรีสงคราม ก่อนที่แพทย์จะเก็บตัวอย่างส่งตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 8 อุดรธานี มีผลยืนยันติดเชื้อโควิด ล่าสุดทางทีมคัดกรองควบคุมเฝ้าระวังนำตัวผู้ป่วยส่งไปรักษาต่อที่ รพ.นครพนม
สำหรับผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นรายที่ 2 หลังจากก่อนนี้ได้พบผู้ป่วยรายแรกที่บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 5,6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นหญิง อายุ 63 ปี ทำงานผับแห่งหนึ่งย่ายทองหล่อกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยอาการล่าสุดทางแพทย์ รพ.นครพนม ยืนยันอาการหายป่วยไม่พบเชื้อ แต่ยังพักฟื้นต่อไปอีก 14 วัน และยังต้องนอนรักษาเฝ้าดูอาการต่อไปอีก 1 เดือน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้านในพื้นที่
รายงานล่าสุด หลังมีการยืนยันพบผู้ป่วยรายที่ 2 นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม เดินทางลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนแล้ว พร้อมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุข จ.นครพนม ระดมเจ้าหน้าที่ทีมคัดกรองควบคุมเฝ้าระวัง เพื่อวางแผนควบคุมกลุ่มเสี่ยงที่สาวพริตตี้วัย 34 ปี รายนี้ เดินทางไปสถานที่ใกล้เคียงและไปพบญาติ
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
นอกจากนี้ ทีมคัดกรองยังวางมาตรการดูแลชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าสาววัย 34 ปีรายนี้กลับมาถึงบ้าน เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง กักตัว 14 วัน ก่อนที่จะมีอาการเจ็บป่วย ทำให้มีความเสี่ยงน้อยที่จะแพร่ระบาด แต่ยังคงมีกลุ่มเสี่ยงคือบุคคลใกล้ชิดภายในบ้านรวม 3 คน ซึ่งจะต้องเร่งกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเร่งด่วนต่อไป