รีเซต

น้ำท่วมใต้วิกฤต! 7 จังหวัดจมบาดาล ปชช.เดือดร้อน 239,699 ครัวเรือน

น้ำท่วมใต้วิกฤต! 7 จังหวัดจมบาดาล ปชช.เดือดร้อน 239,699 ครัวเรือน
TNN ช่อง16
22 พฤศจิกายน 2568 ( 12:04 )
9

คืบหน้าน้ำท่วมภาคใต้

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรง ทำให้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ 

โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ย. 68 เวลา 06.00 น.) มีสถานการณ์อุทกภัยจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา และปัตตานี รวม 66 อำเภอ 316 ตำบล 2,258 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 239,699 ครัวเรือน 645,247 คน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต สถานการณ์น้ำภาพรวมในปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่ภาคใต้ พื้นที่ใกล้เคียง หรือศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ประสบภัย เร่งส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัยลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนจังหวัดที่ประสบสถานการณ์ภัย พร้อมออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว ซึ่งทีมปฏิบัติการ ปภ. ของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตนอกพื้นที่ได้ทยอยนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง 

โดยเข้าสนับสนุนการดำเนินการให้กับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 12 สงขลา เพื่อรับมอบภารกิจในการปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัย อาทิ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 17 นาย และเครื่องจักรกลสาธารณภัย จำนวน 34 รายการ ได้แก่ รถผลิตน้ำดื่ม จำนวน 1 คัน รถบรรทุกติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 คัน รถบรรทุกเครื่องสูบน้ำท่วม/ขัง จำนวน 2 คัน รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน 

รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 3 คัน รถประกอบอาหารพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดเล็ก 2 คัน รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาดไม่น้อยกว่า 200 KVA พร้อมโคมไฟส่องสว่าง แบบเสาสูง 9 เมตร จำนวน 1 คัน รถสูบน้ำกู้ภัยเคลื่อนที่สมรรถนะสูง แบบโมบายยูนิต พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 1 คัน รถดับเพลิงพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 1 คัน เครื่องสูบน้ำระยะไกล จำนวน 2 เครื่อง เครื่องต้นกำลังไฮดรอลิค ขนาด 200 แรงม้า (เครื่องสูบน้ำ) จำนวน 2 เครื่อง เครื่องต้นกำลังไฮดรอลิค ขนาด 75 แรงม้า (เครื่องสูบน้ำ) จำนวน 1 เครื่อง เรือท้องแบนอะลูมิเนียม จำนวน 6 ลำ และเครื่องยนต์เรือ จำนวน 6 เครื่อง                

นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 4 คน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้แก่ เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 4 ชุด รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี ส่งเจ้าหน้าที่ทีมปฏิบัติการ จำนวน 6 คน พร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ได้แก่ เรือท้องแบน พร้อมเครื่องยนต์ จำนวน 10 ชุด รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 1 คัน รถบรรทุกขนาดใหญ่ ติดตั้งเครน จำนวน 1 คัน และรถบรรทุกขนาดเล็ก จำนวน 1 คัน


น้ำท่วมภาคเหนือ-กลาง

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และนครปฐม รวม 49 อำเภอ 440 ตำบล 2,888 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 145,988 ครัวเรือน 490,855 คน 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะยังคงติดตามสถานการณ์และสนับสนุนทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสนับสนุนการทำงานของจังหวัดในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง โดยหากประชาชนพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง “ไลน์ ปภ. รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง