รีเซต

"บิ๊กตู่" แย้มจ่อขยายเวลาลดภาษีดีเซล แบ่งเบาภาระค่าครองชีพปชช.

"บิ๊กตู่" แย้มจ่อขยายเวลาลดภาษีดีเซล แบ่งเบาภาระค่าครองชีพปชช.
มติชน
11 พฤษภาคม 2565 ( 07:17 )
44

“บิ๊กตู่” แย้มจ่อขยายเวลาลดภาษีดีเซล แบ่งเบาภาระค่าครองชีพปชช. ผู้ประกอบการโอดน้ำมันแพงลูกค้ายกเลิกรถเช่า50% โคราชแห่ขายทิ้งธุรกิจทัวร์บขส.

 

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รัชดาธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 พฤษภาคม ว่า ครม.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการ พำนักระยะยาว (Long-term resident visa : LTR Visa) ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ มีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

 

น.ส.รัชดากล่าวว่า สาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย อาทิ 1.กำหนดประเภทการตรวจลงตรา สำหรับผู้พำนักระยะยาวขึ้นใหม่ (Long-term resident visa : LTR Visa) โดยมีอายุการตรวจลงตรา 10 ปี 2.กำหนดคุณสมบัติของคนต่างด้าว 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มประชากรผู้มีความมั่งคั่งสูง กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญพิเศษ รวมถึงผู้ติดตามของคนต่างด้าว (คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งมีอายุไม่เกิน 20 ปีจำนวนไม่เกิน 4 คน) 3.กำหนดให้คนต่างด้าวและผู้ติดตามของคนต่างด้าวที่ได้รับเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งเดียวในอัตรา 50,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท และสามารถยื่นคำขอใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว

 

ศักดิ์สยาม’สั่งศึกษาค่าขนส่ง

กรณีผู้ประกอบการเรือขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ และผู้ประกอบการรถร่วม บขส. ขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันพุ่งสูง

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (คค.) ให้สัมภาษณ์ว่า การพิจารณาค่าโดยสารหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคมนาคม ได้มีการพิจารณาทุก 3 เดือนอยู่แล้ว แต่ในกรณีขอเรียกร้องดังกล่าวได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกรมเจ้าท่า (จท.) ศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นค่าโดยสารหรือค่าขนส่ง ให้เป็นไปตามสถานการณ์จริง กระทบกับประชาชนน้อยที่สุดและผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ด้วย

 

โคราชแห่ขายทิ้งธุรกิจทัวร์บขส.

ที่ จ.นครราชสีมา จากกรณีนางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร บขส.และเจ้าของอู่เชิดชัย และบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ ประกาศขายกิจการของบริษัทเดินรถเชิดชัยทัวร์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสโควิด-19 และราคาน้ำมันเพิ่มสูง

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สัมภาษณ์นายมานิต อัครวงศ์วัฒนา อายุ 69 ปี ชาว ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประกอบกิจการรถโดยสาร บขส. มานานกว่า 40 ปี ซึ่งได้รับผลกระทบแบกรับภาระต้นทุนสูงไม่ไหว ตัดสินใจขายรถทัวร์ทิ้งเช่นกันนายมานิตกล่าวว่า เมื่อประมาณ 40 ปีก่อนได้เเริ่มธุรกิจเดินรถโดยสาร บขส. ลงทุนซื้อรถบัสแบบพัดลมมา 1 คัน วิ่งระหว่างนครราชสีมา-สุรินทร์ โดยพี่น้องรวมรวม 8 คน ก็ทำธุรกิจเดินรถโดยสาร บขส.เช่นกัน ต่อมากิจการเริ่มไปดีขึ้นจนมีรถบัส 5 คัน และปรับปรุงรถให้เป็นรถปรับอากาศแอร์ ช่วงแรกรายได้ดี จ้างลูกน้องถึง 15 คน กระทั่งมาช่วงปี 2562 เริ่มมีการระบาดไวรัสโควิด-19 ผู้โดยสารระมัดระวังตัวเองใช้บริการรถโดยสาร บขส.น้อยลง ทำให้ตลอดปี 2563 ขาดทุนทุกวัน จึงตัดสินใจนำรถบัสไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดปั๊มน้ำมันใกล้บ้านทีละคัน จนในที่สุดต้องจอดทั้ง 5 คัน เนื่องจากวิ่งรถต้องมีภาระค่าใช้จ่ายมากมาย และหนักที่สุดคือค่าน้ำมันดีเซลที่แพงขึ้นต่อเนื่อง

 

“ไม่เพียงผมที่ต้องตัดสินใจขายรถโดยสาร ธุรกิจหลักของครอบครัว แต่ญาติๆ และเพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจเดียวกันก็มีหลายเจ้าทยอยปิดกิจการขายรถโดยสารทิ้งต่อเนื่อง จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรถโดยสาร บขส.ด้วย” นายมานิตกล่าว

 

คลังจ่อขยายเวลาลดภาษีดีเซล

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาขยายมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไป เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพผู้บริโภค แต่อาจขยายเวลาแบบระยะสั้น เช่น 2-3 เดือน จากนั้นค่อยพิจารณาอีกครั้งตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนขึ้นลงเร็ว ซึ่งการลดภาษีดีเซลทุก 1 บาททำให้รายได้รัฐหายไปเดือนละ 1,900 ล้านบาท ลด 3 บาทหายไปเดือนละ 5,700 ล้านบาท ดังนั้น การลดภาษีจึงพิจารณาใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น
แหล่งข่าวกล่าวว่า สถานการณ์ราคาพลังงานตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงปัจจุบันยังทรงตัวระดับสูง ปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเกิน 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้เพิ่มเป็น 6.6 หมื่นล้านบาท มีสภาพคล่องเหลือใช้เพียง 1.29 หมื่นล้านบาท

นายกฯชี้ไปต่อลดภาษีน้ำมัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการต่ออายุมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะหมดอายุในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ว่า จะลดภาษีออกไปอีก ส่วนเงื่อนไขต่างๆ จะเป็นอย่างไร ให้กระทรวงการคลังพิจารณาอยู่ โดยต้องดูสถานการณ์ของพลังงานโลกด้วย และจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า

 

“เตรียมจะลดต่อ กำลังหารือกันอยู่ ต้องดูอย่างรอบคอบ การกำหนดมาตรการต้องดูสถานการณ์ 2-3 เดือนรวมถึงสถานการณ์ราคาพลังงานโลกด้วย จะให้ยาวไปเลยหรือ ลดหมดไปเลยมันยาก เพราะมีผลกระทบต่อห่วงโซ่ด้วยกันทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

น้ำมันแพงลูกค้ายกเลิกรถเช่า50%

นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจขนส่งและรถเช่าในปัจจุบันเงียบเหงามาก หลังเผชิญโควิด-19 ผ่านนานกว่า 2 ปี รายได้หายไปกว่า 80% ล่าสุด แม้รัฐบาลกลับมาเปิดประเทศ และยอดติดเชื้อลดลง ทำให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมามีการติดต่อเช่ารถล่วงหน้า รวมถึงโปรแกรมทัวร์จากต่างประเทศ ทำให้ลูกค้าเริ่มฟื้นตัวกลับมา 20% แต่เมื่อมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน ได้ทำให้อัตราค่าเช่ารถประเภทต่างๆ ปรับขึ้นตาม การเช่ารถชะลอตัวลงทันที เบื้องต้นประเมินว่ามีการเลื่อนและยกเลิกการจองเช่ารถล่วงหน้าไปกว่า 50% ของกลุ่มลูกค้าที่ได้ติดต่อประสานข้อมูลไว้แล้ว

 

“ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดต่อขอหยุดแผนการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน การหยุดรูปแบบนี้ไม่สามารถประเมินได้ว่า ลูกค้าจะกลับมาช่วงใด เพราะราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแบบเป็นขั้นบันได อัตราค่าบริการของรถเช่าและขนส่งต้องปรับขึ้นตามต่อเนื่องกันไป” นายวสุเชษฐ์กล่าว

 

นายวสุเชษฐ์กล่าวว่า ผลจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันก็ปรับขึ้นตามด้วย ทั้งอะไหล่รถยนต์ การซ่อมบำรุง ถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือแบบเร่งด่วน และให้ความชัดเจนว่าราคาน้ำมันจะอยู่ระดับเท่าใด เมื่อปรับขึ้นจะขึ้นเท่าใด กินระยะเวลานานมากน้อยเท่าใด เพราะธุรกิจการเช่ารถและขนส่งเป็นการติดต่อล่วงหน้า

พณ.ตรึงน้ำมันปาล์ม66.50บ./ขวด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาสินค้าราคาแพง ว่า พณ.พยายามดูแลให้ดีที่สุดโดยดูจากต้นทุนเป็นหลักสำหรับราคาหน้าโรงงาน ซึ่งมีการกำกับราคาไว้เพื่อให้เป็นภาระกับผู้บริโภคน้อยที่สุด แต่ไม่ให้ไปกระทบกับเกษตรกรที่ขณะนี้ได้ราคาพืชผลการเกษตรดีมาก ทั้งยาง ปาล์ม ข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้บริโภคอาจได้รับความเดือดร้อนจากราคาผลปาล์มที่ขึ้นไปกิโลกรัมละ 10-12 บาท ทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มสูงขึ้น ซึ่ง พณ.ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์มขวดในการแก้ปัญหาร่วมกัน กำกับราคาไม่ให้สูงกว่าราคาโครงสร้าง

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ขณะนี้น้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคราคาขวดละ 76.50 บาท แต่ได้กำกับราคาและปรับลงมาเหลือ 66.50 บาทเป็นราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ แต่บางพื้นที่อาจสูงกว่าเนื่องจากค่าขนส่ง โดยพยายามจะตรึงราคาให้นานที่สุด

“เราพยายามกดราคาลงมาขวดละ 10 บาท ซึ่งจากการหารือเราตั้งหลักว่าจะดูแล 2 ตัว คือราคาให้ผู้บริโภคเดือดร้อนน้อยผู้ผลิตได้ราคาดี และเรื่องปริมาณไม่ให้น้ำมันปาล์มขาดแคลน มีข้อตกลงร่วมกันว่าปริมาณสต๊อกควรอยู่ที่เท่าไร ส่วนเรื่องการส่งออกจะมีคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด มีตัวแทนเกษตรกร โรงงานสกัด โรงผลิตน้ำมันปาล์มบริโภค มาร่วมกำหนดว่าค่าส่งออกจะมากน้อยแค่ไหนอย่างไร โดยให้กำหนดสต๊อกไว้ว่าแต่ละเดือนจะเป็นเท่าไร ถ้าเกินก็ส่งออกได้ ถ้าไม่เกินก็เน้นในประเทศให้เพียงพอก่อน”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง