'กยท.' เผยอานิสงส์โควิด ดันราคาน้ำยางข้นพุ่ง 10.89%

‘กยท.’ เผยอานิสงส์โควิด ดันราคาน้ำยางข้นพุ่ง 10.89% เหตุความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่ม

นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจราคาน้ำยางในเดือนมิถุนายน 2563 พบว่า ราคาน้ำยางข้นเพิ่มขึ้นเป็น 44.52 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 4.34 บาทต่อกิโลกรัม​ หรือคิดเป็น 10.89% จากเดือนมกราคม 2563 ที่มีราคาอยู่ที่ 40.18 บาทต่อกิโลกรัม และหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 7.48 บาทต่อกิโลกรัม หรือลดลง 15% จาก 52 บาทต่อกิโลกรัม ในช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลให้มีความต้องการน้ำยางข้นเพื่อผลิตถุงมือยางเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยาง เริ่มมีความต้องการเพิ่มขึ้น เช่น ถุงมือยางเพื่อใช้ในการแพทย์ และถุงยางอนามัย เป็นต้น รวมทั้งไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก่อนประเทศผู้ผลิตยางรายอื่น และเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จึงทำให้มีนักลงทุนเริ่มเข้าซื้อยางในตลาดล่วงหน้าอีกครั้ง

“กลุ่มประเทศในยุโรป สหรัฐฯ และสเปน สนใจเข้ามาลงทุนตั้งโรงงาน เพื่อผลิตถุงมือยางในประเทศจำนวนมาก เพราะมองว่าจากการระบาดของโควิด-19 ความต้องการถุงมือยางยังจะมีมากอยู่อีก 3-5 ปี ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่น้ำยางข้น ซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำมีราคาพุ่งสูงกว่ายางชนิดอื่นๆ ทุกชนิด และคำสั่งซื้อยางพาราไทยยาวไปถึงปลายปีแล้ว” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์ กล่าวว่า ส่วน 5 เดือนแรกของปี 2563 ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม​ ไทยส่งออกยางพาราได้ ประมาณ 1.68 ล้านตัน คิดเป็นลัดส่วน 42.4% ของยอดขายรวมทั้งปี 2562 ปริมาณประมาณ 3.97 ล้านตัน ลดลง ประมาณ 61,413 ตัน ลดลง 3.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ส่งออกได้ ประมาณ 1.74 ล้านตัน

สำหรับ สถานการณ์​ยางพาราในประเทศคู่ค้า อาทิ จีนนำเข้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของโควิด-19 โดยจีนมีการนำเข้า ประมาณ 1.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 97,500 ตัน หรือ เพิ่มขึ้น 10.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนนำเข้ายางพาราจากไทยปริมาณ 972,389 ตัน โดยคิดเป็นสัดส่วน 63.42% ของการส่งออกทั้งหมด เป็นต้น